สมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ของอังกฤษ (SMMT) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ของอังกฤษในปี 2563 ร่วงลงเกือบ 30% ซึ่งนับเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2486 โดยถูกกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศ
รายงานของ SMMT ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ปี 2563 อยู่ที่ 1.63 ล้านคัน โดยเฉพาะยอดขายเดือนเม.ย. ที่ปรับตัวลงถึง 97% ซึ่งเป็นเดือนแรกของการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเต็มเดือน
“เราสูญเสียยอดขายรถยนต์ใหม่เกือบ 750,000 แสนคันในช่วง 3-4 เดือน ซึ่งเราไม่เคยกลับมาขายได้เท่านั้นอีกเลย” นายไมค์ ฮอว์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMMT กล่าว
ในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์ของอังกฤษเฝ้ารอข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุด โดยอังกฤษและ EU ได้บรรลุข้อตกลงกันเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าและไม่เกิดภาวะชะงักงันใดๆ แต่อุตสาหกรรมรถยนต์เตือนถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
รายงานระบุว่า อุตสาหกรรมรถยนต์อังกฤษจะเผชิญกับความท้าทายจากการประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่ในอังกฤษและสกอตแลนด์ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ SMMT คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในปี 2564 จะต่ำกว่า 2 ล้านคัน ขณะรอดูยอดขายของเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นหนึ่งในเดือนที่มียอดขายรถยนต์สูงสุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงการเปลี่ยนชุดป้ายทะเบียน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (6 ม.ค. 64)
Tags: COVID-19, SMMT, ผลิตรถยนต์, ยอดขายรถยนต์, รถยนต์, ล็อกดาวน์, สหราชอาณาจักร, อังกฤษ, อุตสาหกรรมรถยนต์, โควิด-19