หุ้นไทยปิดเช้าพุ่ง 13.36 จุด เล็ง Fund Flow เข้าหนุนหุ้นบิ๊กแคปนำตลาด

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,481.60 จุด เพิ่มขึ้น 13.36 จุด (+0.91%) มูลค่าการซื้อขายราว 55,261 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นจากคาดหวัง Fund Flow ไหลเข้า ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่า โดยหุ้นบิ๊กแคปขึ้นได้ดี-นำโดยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ขึ้นเด่นเช้านี้ จากที่เป็นหุ้น Defensive ที่สอดรับนโยบายภาครัฐฯที่หนุน EV Car และ EV Bus ซึ่งเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า

ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งในแดนลบตามดาวโจนส์ ต่างรอผลการเลือกตั้งวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง หวั่นจะผลักดันมาตรการขึ้นภาษีนิติบุคคลได้ง่ายขึ้น พร้อมให้รอดูผลประชุมครม.บ่ายนี้-รอดูผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัสคืนนี้ บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งทรงตัว พร้อมให้แนวรับ 1,470-1,463 แนวต้าน 1,480-1,485 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,481.60 จุด เพิ่มขึ้น 13.36 จุด (+0.91%) มูลค่าการซื้อขายราว 55,261 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,483.27 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,466.05 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวัง Fund Flow ไหลเข้าหลังจากที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเมื่อวานนี้ และเงินบาทก็ยังแข็งค่าอยู่เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง โดยเช้านี้ตลาดฯได้รับแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นได้ดี โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าขึ้นนำตลาดฯ ตอบรับการได้ประโยชน์จากมาตรการภาครัฐฯ ที่ให้การสนับสนุน EV Car และ EV Bus ซึ่งเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า อีกทั้งกลุ่มโรงไฟฟ้ายังเป็นหุ้น Defensive ที่สอดรับนโยบายภาครัฐฯ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบ ตามดาวโจนส์ โดยต่างรอผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ของสหรัฐ หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งจะทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะทำให้ผลักดันมาตรการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลภายใต้รัฐบาลของนายโจ ไบเดน เป็นไปได้ง่ายขึ้น และจะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

ทั้งนี้ ให้รอดูผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งรอดูจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ออกมาหรือไม่ อย่างไร และรอดูผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ในคืนนี้ด้วย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว โดยมีแนวรับ 1,470-1,463 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,485 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • GPSC มูลค่าการซื้อขาย 4,160.52 ล้านบาท ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
  • EA มูลค่าการซื้อขาย 3,663.29 ล้านบาท ปิดที่ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท
  • GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,602.61 ล้านบาท ปิดที่ 37.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
  • DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,375.53 ล้านบาท ปิดที่ 548.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท
  • CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,851.58 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top