นางโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และจำนวนผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลค่อนข้างต่ำ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน และสหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธ (29 ธ.ค.)
นางวาเลนสกีกล่าวว่า ไวรัสโอมิครอนได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงแพร่ระบาดต่อเนื่องไปในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป แม้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่อัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำในขณะนี้
นางวาเลนสกีระบุว่า ค่าเฉลี่ยรายวันของจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 60% ในสัปดาห์ก่อน แตะ 240,400 รายต่อวัน ส่วนอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเฉลี่ยต่อวันในช่วงเวลาเดียวกันเพิ่มขึ้น 14% แตะ 9,000 รายต่อวัน และจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงประมาณ 7% แตะ 1,100 รายต่อวัน
นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวกล่าวว่า ข้อมูลของสหรัฐบ่งชี้ว่าผู้ติดเชื้อโอมิครอนมีความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลน้อยกว่าผู้ติดเชื้อเดลตา แต่วัคซีนบูสเตอร์จะมีความสำคัญในการรับมือกับความเสี่ยงดังกล่าว
ทั้งนี้ นายเฟาชีระบุว่า ข้อบ่งชี้ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าไวรัสโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าเดลตา” พร้อมเสริมว่า “การฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้แนวทางของเรามีประสิทธิภาพสูงสุดในการรับมือกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 64)
Tags: CDC, COVID-19, Omicron, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ, สหรัฐ, แอนโทนี เฟาชี, โควิด-19, โรเชลล์ วาเลนสกี