หุ้นไทยแนวโน้มเช้าแกว่งซิกแซกขึ้น เงินไหลเข้าช่วงท้ายปีหนุน-ไทยคุมโควิดได้ดี

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway ถึง Sideway up ซิกแซกขึ้น รับแรงหนุนเงินไหลเข้าช่วงท้ายปี ส่องต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 7 วันซ้อน และยัง Long ในตลาดฟิวเจอร์ส รวมถึงไทยยังคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี แต่ระวังแรงขายทำกำไรหลัง Bond yield สหรัฐฯขึ้น 1.55% สูงสุดรอบ 2 เดือน และดัชนีฯก็ขึ้นมาในโซนแนวต้าน 1,660 ส่วนแนวรับ 1,640 จุด เล็งกองทุนปรับพอร์ตช่วงท้ายตลาดฯหลัง SET50 และ SET100 วันนี้ Rebalancing ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งบวก-ลบราว 0.1-0.2%

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up ในลักษณะซิกแซกขึ้นได้ จากแรงหนุนเม็ดเงินไหลเข้าในช่วงท้ายปี เห็นได้จากนักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิหุ้นไทยค่อนข้างมาก ซึ่งซื้อมา 7 วันติดต่อกัน และยังมีการ Long ในตลาดฟิวเจอร์สด้วย รวมถึงไทยก็ยังควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ดี

อย่างไรก็ดี จะต้องระวังอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) อายุ 10 ปีของสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นมา 1.55% สูงสุดในรอบ 2 เดือน อาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาได้ และดัชนีฯก็ขึ้นมาอยู่ในโซนแนวต้าน 1,660 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,640 จุด

พร้อมให้ติดตาม SET50 และ SET100 จะ Rebalancing มีผลวันนี้ ซึ่งอาจจะทำให้กองทุนจะต้องปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงท้ายตลาดฯด้วย และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่วนสหรัฐฯให้ติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่จะออกมาในวันนี้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.1-0.2%

  • ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,488.63 จุด เพิ่มขึ้น 90.42 จุด(+0.25%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,793.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.71 จุด (+0.14%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,766.22 จุดลดลง 15.51 จุด (-0.10%)

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 112.64 จุด หรือ -0.39%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.51 จุด หรือ -0.01% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 43.91 จุด หรือ +0.19%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ธ.ค.) 1,653.33 จุด เพิ่มขึ้น 11.81 จุด (+0.72%)

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 6,050.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.64

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 76.56 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 0.8%

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ธ.ค.) อยู่ที่ 6.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.47 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังคลายกังวลโอมิครอน

– ร.ฟ.ท.ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง สายเด่นชัย-เชียงของ สายบ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 1.2 แสนล้าน 5 สัญญา กระจายรับโปรเจ็คต์ “ช.การช่าง-เนาวรัตน์-ไอทีดี-ยูนิค-ซิโนไทย” ยืนยันประมูลโปร่งใส- นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาเนื้อหมูแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มขึ้นมาอยู่ที่ กก.ละ 95-96 บาท และยังมีโอกาสขยับขึ้นไปเกิน กก.ละ 100 บาท โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคเหนือที่ราคาสูงกว่าภาคกลางและกรุงเทพฯ ส่งผลราคาเนื้อหมูหน้าเขียงจะเพิ่มเป็น กก.ละ 200 บาท สาเหตุจากหมูเป็นเข้าตลาดลดลง เพราะผู้เลี้ยงเลิกเลี้ยงจำนวนมากจากการขาดทุนสะสม ประกอบกับต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น 30%

– เงินสะพัดงานมันนี่เอ็กซ์โปส่งท้ายปี 2.75 หมื่นล้าน ยอดกู้บ้านแชมป์กว่า 2 หมื่นล้าน นักลงทุนตอบรับโซนใหม่ สินทรัพย์ดิจิทัล แน่นทุกวันกว่า 4 พันราย แห่เปิดบัญชีใหม่ 2,400 บัญชี

– คลังเผยเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ย.64 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ทั้งการบริโภค-ท่องเที่ยวภายในประเทศ-ส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 แต่ยังต้องติดตามการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่

  • หุ้นเด่นวันนี้

– SPRC (กรุงศรี)”ซื้อ”เป้า 12 บาท ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นทะลุ 76$/bbl ทำให้ความเสี่ยงที่จะมี Stock loss ลดลง ขยะที่ค่าการกลั่นฟื้นตัวเร็วจากระดับ 2.3$/bbl ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ขึ้นสู่ระดับ 7.04$/bbl ในปัจจุบัน

– TACC (คิงส์ฟอร์ด)”ซื้อ”เป้า IAA Consensus 9.35 บาท แนวโน้มผลประกอบการ Q4/64 เติบโตขึ้นต่อเนื่อง QoQ. YoY ตามการบริโภคฟื้นหลังรัฐคลายล็อกดาวน์ส่งผลคนเข้า 7-11 มากขึ้น โดยบริษัทออกเครื่องดื่มโถกดรสชาติใหม่ได้รับการตอบรับที่ดี และเตรียมวางขายสินค้าใหม่น้ำดื่มอัลคาไลน์ใน ธ.ค.ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นยังสามารถบริหารจัดการได้ไม่กระทบอัตรากำไรขั้นต้น ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 10-15%YoY หนุนจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย การขยายสาขา 7-11 ในต่างประเทศ และการขยายช่องทางขายนอกร้าน 7-11 ส่วนผลิตภัณฑ์กัญชงคาดชัดเจนขึ้นในช่วง Q2/65

– TKS (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 22 บาท ระยะสั้นกำไร Q4/64 จะออกมาโดดเด่นตาม SYNEX ที่เป็น High Season ขณะที่ Q1/65 จะได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปดีมีคืน ซึ่งผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้า IT มากที่สุด ด้านราคาหุ้น SYNEX ที่ปรับขึ้นแรงยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงใน TKS ที่ถือหุ้นอยู่ถึง 38.5% และปัจจุบันยังมี NAV Discount สูงเกือบ 40% ซึ่งมากเกินไป และเทรด 2565PER เพียง 13.7 เท่า พร้อมให้แนวรับ 14.70-14.50 บาท แนวต้าน 15.70 ถัดไป 16-16.20 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top