สัมภาษณ์พิเศษ: KUN ผ่าหุ้นอสังหาฯหลายเด้ง ถึงเวลาฝ่าฐานใหม่ดันรายได้ทะลุพันล้าน

กลายเป็นหุ้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการเติบโตของกำไรหลายเด้งตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา สำหรับผลประกอบการ บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) หากย้อนไปในปี 61 รายได้อยู่ที่ 447 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 11.27 ล้านบาท หลังจากนั้นก็มีการเติบโตต่อเนื่องในทุกๆ ปี จนมาถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 64 ก็สามารถสร้างรายได้แตะ 697.39 ล้านบาท และกำไรสุทธิแตะ 110.16 ล้านบาทฝ่าวิกฤติโควิดหนักมาได้อย่างแข็งแกร่ง

ล่าสุด คณะกรรมการบริหาร KUN กำลังสร้างฐานรายได้ใหม่ทะลุ 1 พันล้านบาทเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา

กำไรเติบโตโดดเด่นแม้เผชิญวิกฤติโควิด-19

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KUN เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า ภาพรวมการเติบโตของ KUN ในปี 64 มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อน โดยเป้ายอดขาย (Presale) ตั้งไว้ระดับ 1.5 พันล้านบาทน่าจะสามารถทำได้ตามที่วางแผนไว้ หลังจากสิ้นเดือน พ.ย.64 ทำไปได้แล้วราว 1.3 พันล้านบาท ส่งผลให้รายได้ทั้งปีนี้น่าจะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10-15%

ด้านอัตรากำไรสุทธิตลอดทั้งปี 64 วางเป้าเติบโตแบบ Double Digits สะท้อนจากผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกอยู่ที่ระดับกว่า 15% จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาในระดับนี้ไปจนถึงสิ้นปี และยังเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต

สำหรับช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์วิกฤติโควิด-19 แต่กลับกลายเป็นผลบวกต่อยอดขายของ KUN เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตามยุค New Normal ทำให้ที่อยู่อาศัยแนวราบได้รับความสนใจมากจากความต้องการพื้นที่พักอาศัยมากขึ้น บริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยจึงพยายามตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ยอดจองเพิ่มสูงขึ้นนำมาสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดช่วงที่ผ่านมา

“โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปค่อนข้างชัดเจน โรคระบาดครั้งนี้เปลี่ยนพฤติกรรมการอยู่อาศัยและการใช้บ้านจากรูปแบบเดิมไปมาก มันสะท้อนว่าคนเลือกที่จะอยู่บ้านมากขึ้น และการพัฒนาด้านการสื่อสารอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ฉะนั้น เมื่อเราเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน เราก็เอาเงินที่ได้จากการเข้า IPO ในช่วงปลายปี 62 มาเร่งสร้างบ้านในทำเลที่เราถนัดและยังมีความต้องการอยู่มาก ทำให้บ้านของเราได้รับความสนใจมากกว่าคาด รวมถึงนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV เป็นการชั่วคราว ก็ส่งผลให้ยอดขายของเราเติบโต”

นางประวีรัตน์ กล่าว

ปั้นรายได้ฐานใหม่ปี 65 ทะลุ 1 พันล้านบาท มองทำเลขยายเพิ่มนอก 4 ทิศรอบ กทม.

แผนการเติบโตของ KUN ในปี 65 ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% หรือทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านบาท พร้อมกับรักษาอัตรากำไรสุทธิเป็นตัวเลข 2 หลักเช่นเดิม รวมไปถึงการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์พัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้แนวคิด “สุขใจอยู่บ้านชานเมือง” ในทุกทำเลรอบกทม.

โครงการของ KUN แบ่งเป็นทั้งหมด 6 โครงการ 3 ทิศ ประกอบด้วย 1) ทิศตะวันตกของกทม. : โซนบางบัวทอง 2) ทิศตะวันออกของกทม. : โซนฉะเชิงเทรา และ 3) ทิศใต้ของกทม. : โซนพระรามสอง รวมไปถึง KUN ยังอยู่ระหว่างแผนการศึกษาการลงทุนพัฒนาพื้นที่ทางด้านทิศเหนือของกทม. : โซนรังสิต แม้ว่าจะเป็นโซนที่มีการแข่งขันสูงก็ตาม

นอกจากนี้ KUN ยังศึกษาขยายโครงการไปในพื้นที่อื่นรอบ กทม.ไม่ว่าจะเป็น บางแค พุทธมณฑลสายสอง หรือ นครปฐม เนื่องจากว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายคมนาคมขนาดใหญ่จากภาครัฐอีกด้วย

“บริษัทมีจุดแข็งผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาฯแนวราบในพื้นที่ทิศตะวันตกของ กทม.โซนบางบัวทอง ซึ่งนับเป็นพื้นที่โครงการหลักของ KUN หลังจากได้ซื้อที่ดินมาตั้งแต่ปี 57 เพื่อวางกลยุทธ์ทางด้านราคา ซึ่งตลอดปี 2 ที่ผ่านมาบุคลากรของ KUN ทำงานกันอย่างหนัก เราเลยมีองค์ความรู้ที่ดี พร้อมจะสู้ต่อไปในปี 65 และการที่เรามีตัวเลขรายรับแตะถึงพันล้าน นั่นหมายถึงการขยายโปรเจ็คต์ให้มากกว่าที่เคยเป็นอยู่ช่วงต้นปี 65 เราจะเปิดโครงการในทิศใต้ของ กทม.อย่างเป็นทางการ เป็นโปรเจ็คต์ใหญ่พื้นที่ 153 ไร่ มูลค่าราว 3 พันล้านบาท ส่วนพื้นที่ทิศเหนือของ กทม.เราพบว่ามีการแข่งขันสูง จึงต้องการเวลาศึกษาเพิ่มเติมอีกในปี 65”

นางประวีรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ ทาง KUN มีคณะกรรมการดูแลความเสี่ยงโดยเฉพาะ ด้วยการคาดการณ์และการวิจัยโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ของบริษัทอย่างครอบคลุม ทำให้เกิดการบริหารจัดการสต็อคที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันในช่วงการตัดสินใจซื้อที่ดิน จะต้องพิจารณาถึงตัวเลขความเสี่ยงที่ทางบริษัทจะรับได้ ประกอบกับการใช้เครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพทำให้ KUN สามารถเตรียมวัตถุดิบไว้พร้อมสำหรับการเติบโตและรองรับยอดขายที่ดีในอนาคตได้ *แหล่งเงินทุนพร้อมระยะยาว ขยายอาณาจักรมูลค่าเฉียดหมื่นล้าน

นางประวีรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีที่ดินรอการพัฒนารวมมูลค่าราว 9.8 พันล้านบาท เพียงพอที่จะสร้างการเติบโตให้กับ KUN ได้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 5-7 ปีต่อจากนี้ ในส่วนของเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจมาจากแหล่งเงินหลากหลาย และเป็นเครื่องมือทางการเงินผ่านตลาดทุน เช่น เงินที่ได้รับจาก IPO, การออกหุ้นกู้, การออกหุ้นกู้แปลงสภาพ และการออกวอร์แรนท์ ที่เหลือจะเป็นส่วนของโปรเจ็คต์ไฟแนนซ์ผ่านสถาบันการเงินเพื่อรองรับโอกาสการเติบโตในอนาคต

“KUN เติบโตมาจากมุมมองของคนเก่งในพื้นที่ที่เลือกเข้ามาร่วมงานกับเรา ดังนั้น เส้นทางที่บริษัทประสบความสำเร็จ มาจากที่ทีมของเราสร้างมันขึ้นมา เพราะฉะนั้น KUN อาจจะไม่ใช่บริษัทที่เติบโตเร็วแบบก้าวกระโดด เพราะเราให้ความสำคัญไปที่การเติบโตอย่างยั่งยืน

เราเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมว่าจะทำให้ KUN ก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งได้ ซึ่งหากมองแผนระยะยาวไปถึงตัวเลขเป้าหมายรายได้จะไปถึงหมื่นล้านบาทได้หรือไม่ ถ้าพิจารณาจากการที่เราเข้ามาอยู่ในตลาดฯ ผ่านการระดมทุนและใช้เครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงความพร้อมของทีม เราก็เชื่อว่ามีโอกาสที่จะไปถึงจุดนั้นได้ในอนาคต” นางประวีรัตน์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top