เงินบาทเปิดเช้านี้ 33.47 อ่อนค่าเล็กน้อยจากเย็นวันศุกร์ ยังไร้ปัจจัยใหม่

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.47 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 33.43 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม โดยตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ และต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลกจนอาจมีการออกมาตรการป้องกันเพิ่มเติม

“บาทอ่อนค่าจากเมื่อเย็นวันศุกร์เล็กน้อย ตามทิศทางของดอลลาร์ แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ช่วงนี้คงต้องจับดูสถานการณ์โควิดที่ขยายวงกว้างไปทั่ว”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.40 – 33.55 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (24 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.20016% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.34802%

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 33.50875 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.38 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 114.38 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1320 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1342 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.518 บาท/ดอลลาร์
  • จับตาสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย หลังจากเริ่มพบการระบาดของสายพันธุ์นี้เพิ่มมากขึ้น และกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งต้นตอยังมาจากผู้เดินทางจากต่างประเทศ ทั้งที่ จ.กาฬสินธุ์ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธุ์ เป็นต้น
  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายในวันศุกร์ที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน, ตลาดทองคำ และตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก ปิดทำการในวันดังกล่าวเช่นกัน
  • สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในฝรั่งเศสน่าเป็นห่วง หลังจากยอดผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 1.04 แสนราย
  • อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เรียกร้องให้นายกฯคนปัจจุบัน ยึดมั่นในการใช้นโยบายอาเบะโนมิกส์แบบผสมผสาน เพื่อสร้างความพอใจให้กับตลาดการเงิน โดยให้เหตุผลว่า ตลาดเงินไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในด้านยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ แต่ตลาดต้องการความต่อเนื่องของโครงการต่าง ๆ ที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก และการมุ่งเน้นการเติบโตที่ได้มีการดำเนินมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลอาเบะ
  • นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางจีน ซึ่งได้ให้คำมั่นเมื่อวันเสาร์ (25 ธ.ค.) ว่า จะสนับสนุนเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real economy) มากขึ้น และจะกำหนดนโยบายการเงินที่คำนึงถึงอนาคตและมีเป้าหมายชัดเจนมากขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังว่าจีนจะใช้นโยบายที่ผ่อนคลาย เนื่องจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  • ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดดัลลัส, ราคาบ้านเดือนต.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือน พ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top