ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไม่น่าจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
- ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,821.35 จุด เพิ่มขึ้น 22.98 จุด หรือ +0.08% และ
- ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,223.76 จุด เพิ่มขึ้น 30.12 จุด หรือ +0.13%
นักลงทุนขานรับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลการวิจัยของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน, มหาวิทยาลัยเอดินบะระแห่งสกอตแลนด์ และสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโอมิครอนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรครุนแรงน้อยกว่าผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเดลตา
ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงจับตาตลาดหุ้นจีนหลังหุ้นบลูชิปลดลง 0.32% หลังมีรายงานว่า ทางการจีนสั่งล็อกดาวน์เมืองซีอานซึ่งมีประชากรกว่า 13 ล้านคน หลังพบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคเมืองซีอานรายงานเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 127 คนในการระดมตรวจเชื้อใหญ่ทั่วเมืองครั้งที่ 2 โดยเจ้าหน้าที่ของเมืองสั่งการให้ประชาชนทุกคนอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นมีเหตุจำเป็นที่ต้องออกไปทำธุระภายนอก พร้อมระงับการคมนาคมทั้งขาออกและขาเข้า โดยจะอนุโลมให้เป็นรายกรณีไปเท่านั้น
สำหรับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติงบประมาณประจำปี 2565/2566 ที่มีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 107.6 ล้านล้านเยน (9.4155 แสนล้านดอลลาร์) เนื่องจากมาตรการสกัดโควิด-19 ได้เพิ่มต้นทุนในการสนับสนุนประชากรสูงวัย ประกอบกับค่าใช้จ่ายด้านการทหารที่เพิ่มขึ้นเพื่อรับมือกับจีน
ทั้งนี้ งบประมาณดังกล่าวประกอบด้วยเงิน 5 ล้านล้านเยนที่กันไว้สำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19, งบด้านกลาโหมที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 5.37 ล้านล้านเยน และงบสำหรับการชำระหนี้ 24.3 ล้านล้านเยน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย