สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โรงพยาบาลหลายแห่งในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่แผนกผู้ป่วยวิกฤตและบุคลากรทางการแพทย์ต่างแบกรับภาระหนักจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาอยู่ในขณะนี้
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์เผยว่า รัฐอินเดียนา, โอไฮโอ และมิชิแกนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รุนแรงกว่ารัฐอื่น ๆ ในสหรัฐ โดยอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลอยู่ที่ 1 ในทุก ๆ 4 เตียง
ข้อมูลยังระบุว่า ผลกระทบจากการระบาดยังรุนแรงยิ่งขึ้นในหอผู้ป่วยวิกฤต ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยวิกฤตที่เข้ารักษาตัวจากอาการโควิด-19 มากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนเตียงในแผนกนี้
นายจอห์น พาลเมอร์ โฆษกของสมาคมโรงพยาบาลรัฐโอไฮโอกล่าวว่า “จำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลของรัฐโอไฮโอเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัวนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อความสามารถของระบบการรักษาเป็นอย่างมากในพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐ รวมถึงเมืองคลีฟแลนด์ด้วย”
“หากอัตราผู้ป่วยในโรงพยาบาลยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ระบบโรงพยาบาลอาจถึงจุดที่ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้”
นายพาลเมอร์กล่าว
นอกจากนี้ เขายังระบุว่า ขณะนี้เตียงในโรงพยาบาลในรัฐโอไฮโอมีผู้ป่วยอยู่ราว 78% ส่วนแผนก ICU อยู่ที่ 81% ส่งผลให้โรงพยาบาลในรัฐเลื่อนการผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วนออกไปก่อน รวมถึงส่งตัวผู้ป่วยบางส่วนไปยังโรงพยาบาลอื่น ๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนที่อาจเพิ่มขึ้นหลังการรวมตัวกันเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลวันหยุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 64)
Tags: บุคลากรทางการแพทย์, สหรัฐ, โควิด-19, โรงพยาบาล, โอมิครอน