นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและบริหารองค์กร บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในปี 65 จะเติบโตจากฐานที่ต่ำในปีนี้ และความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในภาคครัวเรือนที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4/64 หลังมีการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทำให้ยอดขาย LPG ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ายอดขาย LPG ในไตรมาส 4/64 จะเติบโตราว 10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/64 อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงเป้ายอดขาย LPG ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 700,000 ตัน และตั้งเป้าหมายปี 65 เพิ่มขึ้นเป็น 765,000 ตัน
กลยุทธ์การดำเนินงานในปีหน้า บริษัทจะมุ่งเน้นในธุรกิจปลายน้ำมากขึ้น (B2B, B2C) และเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตราว 5 เมกะวัตต์แล้ว ซึ่งปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็น 20 เมกะวัตต์ และธุรกิจรับซ่อมแซมและผลิตถังก๊าซ
รวมถึงมองหาโอกาสในการเพิ่มฐานรายได้และกำไร ผ่านการมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ หรือพลังงานทางเลือกต่างๆ โดยบริษัทตั้งเป้าสัดส่วนกำไรในธุรกิจที่ไม่ใช่ LPG (Non-LPG) เพิ่มเป็น 30% ภายในปี 69 จากปีนี้อยู่ราว 2% ส่วน LPG จะปรับตัวลงมาอยู่ที่ 70% จากปีนี้อยู่ที่ 98%
“ถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโอมิครอนไม่ได้รุนแรงมากไปกว่านี้ หรือมีอะไรเซอร์ไพรส์เรา หรือต้องล็อกดาวน์กันอีกรอบ เราก็มองเทรนด์ในปี 65 ก็คงไม่แย่ไปกว่าไตรมาส 4/64” นายนพวงศ์ กล่าว
สำหรับการลงทุนในปีหน้า บริษัทวางงบประมาณไว้ที่ 400-500 ล้านบาท โดยหลักจะใช้ในการขยายธุรกิจ LPG ไม่ต่ำกว่า 300-400 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ธ.ค. 64)
Tags: LPG, WP, ก๊าซปิโตรเลียมเหลว, ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่, นพวงศ์ โอมาธิกุล, หุ้นไทย