แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยเช้าแกว่งไซด์เวย์ กังวลโควิดโอมิครอนระบาดหนักสร้างความเสี่ยงศก.

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway ถึง Sideway Down คล้ายตลาดภูมิภาคที่เช้านี้ติดลบราว 0.5-0.7% กังวลการแพร่ระบาดโควิดโอมิครอนในยุโรปที่จำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ และบ้านเราก็จับตาด้วยเช่นกันหลังพบคลัสเตอร์ในแคมป์คนงานก่อสร้าง-ร้านหมูกระทะ ทำให้ต้องจับตาช่วงปีใหม่ให้ดี เพราะแม้จะฉีดวัคซีนแล้ว-เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน ก็ยังสามารถติดเชื้อซ้ำได้อีก พร้อมให้แนวรับ 1,627-1,620 แนวต้าน 1,651-1,658 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียทีเช้านี้ติดลบกันราว -0.5% ถึง -0.7% จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในยุโรปที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ แม้แต่บ้านเราก็กำลังจับตาสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอนเช่นเดียวกัน หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ในแคมป์คนงานก่อสร้าง และร้านหมูกระทะ ทำให้ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และเคยติดเชื้อโควิดมาก่อน ก็ยังสามารถติดเชื้อซ้ำได้อีก

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาความคิดเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาต่าง ๆ ที่จะมาพูดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด หลังจากที่มีสัญญาณออกมาจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้งในปีหน้า ส่วนบ้านเราให้ติดตามผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาใหม่เพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร

พร้อมให้แนวรับ 1,627-1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,651-1,658 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,365.44 จุด ลดลง 532.20 จุด (-1.48%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,620.64 จุด ลดลง 48.03 จุด (-1.03%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,169.68 จุด ลดลง 10.75 จุด (-0.07%)

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 220.22 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 112.8 จุด หรือ -0.49% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 12.32 จุด หรือ -0.34%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ธ.ค.) 1,641.73 จุด ลดลง 3.59 จุด (-0.22%)

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 360.24 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.64

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 70.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.52 ดอลลาร์ หรือ 2.1%

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ธ.ค.) อยู่ที่ 6.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.42 อ่อนค่าจากสัปดาห์ก่อน กังวลโควิดโอมิครอนแพร่ระบาดใน-ตปท.

– ภาพรวมตลาดเครื่องดื่ม ในประเทศไทยมีมูลค่าหลายแสนล้านบาท เซ็กเมนต์ใหญ่คือได้แก่ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ที่มีหมวดหมู่เบียร์มูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาท สุราขาว สุราสี มูลค่าหลักแสนล้านบาท อีกเซ็กเมนต์ ที่ใหญ่ไม่แพ้กันคือ “เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์” ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินมูลค่าตลาดปี 2564 ไว้ที่ 1.97-1.99 แสนล้านบาท เติบโตเล็กน้อยเพียง 0.5-1.5%

– “พิพัฒน์” เผย ททท.ทุ่ม 150 ล้านบาท จัดงานส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ทั่วไทย “อันเดรอา โบเชลลี” ศิลปินระดับโลก ยืนยันร่วมมาเคาต์ดาวน์ปีใหม่ในประเทศไทย โดยขึ้นแสดงที่เกาะภูเก็ต เตรียมชมศิลปินจำนวนมากขึ้นเวทีสร้างความสุขให้คนไทย

– บอร์ด รฟท. เคาะรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 2.97 หมื่นล้าน นำร่องเฟส 2 เร่งชงคมนาคม คาดครม.อนุมัติในไตรมาส 2/65 เดินหน้าเปิดประมูล เริ่มสร้างปี 66 พร้อมเร่งดันช่วงปากน้ำโพ -เด่นชัย เชื่อมต่อสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สมบูรณ์ไร้รอยต่อ

– พลังงานพับแผนเงินกู้หนุนแอลพีจี หวั่นผิดกฎหมาย พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท จับตา กบง.เคาะดึงเงินกองทุนน้ำมันฯ ช่วย หรือปล่อยให้ราคาก๊าซหุงต้มขยับขึ้นเป็นขั้นบันได

– นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวถึง ความคืบหน้าในการกู้เงินเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ เป็นจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ ธนาคารกรุงไทยกับธนาคารออมสินได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จากที่กำหนดในหนังสือให้ธนาคารแจ้งตอบภายใน 31 ม.ค.2565 เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องของเงื่อนไขต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของความสามารถในการชำระเงินคืน เนื่องจากอาจจะยังกังวลในเรื่องของสถานการณ์ราคาน้ำมันยังอาจผันผวน

 

หุ้นเด่นวันนี้

– CK (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 26 บาท ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรปี 65 โดยเฉพาะจากธุรกิจรับเหมาฯที่เข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่จากการลงทุนที่เร่งตัว ขณะที่บริษัทลูกๆฟื้นตัวตามการ Reopen โดยคาด CK มีลุ้นได้งานใหญ่ต่อเนื่องและหนุน Backlog ทะลุ 1 แสนลบ.อีกครั้ง และรองรับเการเติบโตในช่วง 5 ปีข้างหน้า พร้อมคาดกำไรปี 2565 โตแรง 10 เท่า Y-Y และเร่งตัว +65% Y-Y ในปี 2566 โดยให้แนวรับ 21.90-21 บาท แนวต้าน 23 บาท

– PTTGC (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 62 บาท ราคาเม็ดพลาสติก HDPE และผลิตภัณฑ์ปิโตรฟื้นตัวล้อไปกับเศรษฐกิจโลก ด้านราคาหุ้นเริ่ม Bottom out น่าสะสม ทั้งนี้ ราคาหุ้นโดยเฉลี่ยในรอบ 2 สัปดาห์ Under Perform SET คาดเริ่ม Bottom out น่าสะสม, ปี 65 รับรู้รายได้จากโครงการใหม่เต็มปี พร้อมประเมินกำไรสุทธิปี 64-65 ที่ 5.12 หมื่นลบ. และ 2.93 หมื่นลบ. ตามลำดับ

– GULF (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 48 บาท คาดกำไรปี 65 เติบโต +45%YoY สู่ระดับ 1.17 หมื่นล้านบาท เติบโตสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ศึกษา โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวของกำลังการผลิตปี 65 กว่า +33%YoY สู่ระดับ 5,045 MW และพยายามเพิ่มเติมโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยดูแลทางด้านสิ่งแวดล้อม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top