ผบ.ตร.สั่งจัดกำลังกว่า 8 หมื่นนายดูแลด้านจราจรให้ประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงได้สั่งการให้ ตร.เตรียมมาตรการรับมือและอำนวยความสะดวกด้านจราจรให้แก่ประชาชน พร้อมย้ำให้ปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย และตั้งจุดตรวจ จุดสกัด โดยไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้ใช้รถใช้ถนน โดยจัดกำลังดูแลกว่า 8 หมื่นนาย และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศจร.ตร.) รับผิดชอบการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่

โดย ผอ.ศจร.ตร.ได้กำหนดนโยบายด้านการจราจร ดังนี้

1.การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจรในช่วงวันที่ 29 ธ.ค.64-4 ม.ค.65 ให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม ตั้งแต่การจัดทำแผนที่แสดงเส้นทางสำรอง เส้นทางเลี่ยง และ เส้นทางลัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้คืนพื้นผิวจราจรให้เสร็จสิ้นภายใน 25 ธ.ค.64 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยการจราจรในแต่ละเส้นทาง บริเวณทางร่วมทางแยก และหน้าสถานีบริการน้ำมันหรือจุดแวะพักรถ โดยมีศูนย์ควบคุมสั่งที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง มีสายด่วน 1193 หรือ เพจ facebook ตำรวจทางหลวง และศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) สายด่วนหมายเลข 1197 (พื้นที่ กทม.) เพื่อให้บริการประชาชน ในการสอบถามเส้นทาง รับแจ้งอุบัติเหตุ

2.ตำรวจทางหลวงจัดห้องพักฟรีทั่วไทย โดยหน่วยบริการ 201 แห่งทั่วประเทศมีห้องพักผ่อนฟรีสำหรับให้ประชาชนแวะพักเหนื่อย พร้อมบริการเครื่องดื่มและขนมทานเล่น ห้องน้ำสะอาดซึ่งทุกหน่วยบริการมีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้มาตรฐาน โดยให้บริการจองห้องพักของหน่วยบริการตำรวจทางหลวง ผ่านระบบออนไลน์ที่ www.booking.hwpdth.com

3.ออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร 2 ฉบับ

(1) ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดช่อง หรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่อง (Reversible Lane) ขาออก กทม. 9 เส้นทาง ระหว่าง 29 ธ.ค.64 ถึง 1 ม.ค.65 และขาเข้า กทม. 16 เส้นทาง ระหว่าง 1 ถึง 4 ม.ค.65 เพื่อใช้เป็นช่องทางพิเศษ เพื่อระบายรถช่วงที่หนาแน่นให้คล่องตัว

(2) ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินรถในถนนบางสาย ตั้งแต่วันที่ 30-31 ธ.ค.64 และตั้งแต่วันที่ 2-4 ม.ค.65 เส้นทางห้ามวิ่ง 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 194 กม. ทั้งนี้สำหรับรถบรรทุกที่มีความจำเป็นต้องเดินรถในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถยื่นคำขอขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ของ บก.ทล. ได้ที่ www.hwpdth.com โดยเริ่มเปิดระบบขออนุญาตทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.64 เป็นต้นไป

4.การบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน บังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก (10 รสขม) ดำเนินคดีอย่างจริงจังกับผู้ที่ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด รวมทั้งกำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนใน 4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่ 1) ขับรถย้อนศร 2) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 3) ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า และ 4) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และหากพฤติการณ์มีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน จะดำเนินคดีเพิ่มในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000-10,000 บาท โดยในการตรวจจับการกระทำผิดจะใช้วิธีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ โดยถือปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นตอนการปฏิบัติ Standard Operation Procedures (SOP) รวมถึงการใช้ชุดสายตรวจจราจรออกตรวจในพื้นที่เสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือมีสถิติการกระทำผิดบ่อยครั้ง ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.64 เป็นต้นไป และกรณีเกิดอุบัติเหตุตำรวจจะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกรายกรณีเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการสอบสวนขยายผล ในกรณี ที่เด็กหรือเยาวชนดื่มสุราแล้วมาขับรถ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายสุรา ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ และดำเนินคดีกับบุคคลที่ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอม ให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือบุคคลที่ และบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเข้มงวด (การห้ามจำหน่ายสุราในเวลาห้าม และ ห้ามดื่ม-ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานที่กฎหมายกำหนด และห้ามขายให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี)

5.มาตรการเพื่อป้องกันก่อนเกิดเหตุ ทุกสถานีตำรวจ จัดทำฐานข้อมูลบัญชีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ ได้แก่ บัญชีบุคคลเสี่ยง (ผู้ที่มีประวัติเมาสุรา หรือมีแนวโน้มกระทำผิดข้อหาอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ) บัญชีร้านค้าเสี่ยง (ร้านที่มีประวัติการกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) บัญชีกิจกรรมเสี่ยง (ข้อมูลการจัดงานหรือกิจกรรมรื่นเริงเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่ต้องเฝ้าระวัง) เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการเข้าไปประชาสัมพันธ์ป้องปรามหรือตักเตือนก่อนทำผิด

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเรื่องการจราจรสามารถโทร.สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 และ สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชม.

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top