CPN เล็งผุด เซ็นทรัล วิลเลจ แห่งที่ 2 ทำเลเมืองท่องเที่ยวภายใน 1-3 ปี

นายชาติ จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาโครงการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาทำเลพัฒนาโครงการเอาท์เล็ต เซ็นทรัล วิลเลจ แห่งที่ 2 ยังคงเน้นทำเลศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เช่น ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วง 1-3 ปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าพฤติกรรมการซื้อสินค้าลดราคาของคนในประเทศ หันมาซื้อสินค้าจากในเอาท์เล็ตในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่สามารถไปเดินทางไปต่างประเทศได้ ทำให้ยอดการซื้อสินค้าของเอาท์เล็ตในประเทศเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีตมาก เพราะไม่ต้องรอซื้อสินค้าลดราคาที่ห้างสรรพสินค้าในเมือง ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าชาวไทยที่เข้ามาไช้บริการ เซ็นทรัล วิลเลจ เพิ่มมาเป็น 90% จากเดิมที่ 10% และ ลูกค้าชาวต่างชาติลดมาเหลือ 10% ทำให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการมองหาการลงทุนโครงการเอาท์เล็ตแห่งใหม่

สำหรับการขยาย เซ็นทรัล วิลเลจ แห่งแรกในเฟสที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 65 เป็นต้นไปนั้น บริษัทคาดหวังว่าจะมีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นมาเป็นเฉลี่ย 14,000-15,000 คน/วัน จากปัจจุบัน 10,000 คน/วัน โดยในช่วงแรกของการเปิดให้บริการเฟส 2 จะมีร้านค้าพร้อมเปิดให้บริการแล้วกว่า 80% บริษัทจึงมั่นใจว่าลูกค้ายังคงให้การตอบรับเป็นอย่างดี

ในด้านการพัฒนาศูนย์การค้าแห่งใหม่ของ CPN หลังจากในปี 64 เปิดศูนย์การค้าใหม่ไปแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล ศรีราชา และเซ็นทรัล อยุธยา จากนั้นในปี 65 จะมีการเปิดเพิ่มอีก 1 แห่ง คือ เซ็นทรัล จันทบุรี โดยบริษัทยังคงเดินหน้าการลงทุนโครงการศูนย์การค้าแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง เน้นในจังหวัดแหล่งทองเที่ยวเป็นหลัก โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือ ซึ่งมีการท่องเที่ยวคึกคัก ทั้งนี้ บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท/ปี เพื่อรองรับโอกาสในการลงทุนศูนย์การค้าใหม่

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด CPN กล่าวว่า ปัจจุบันจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าของ CPN ถือว่ากลับมาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะศูนย์การค้าในต่างจังหวัดที่มีจำนวนผู้ใช้บริการกลับมาสูงถึงเกือบ 100% มาจากการที่พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในต่างจังหวัดเริ่มมีความคล้ายคลึงกับคนกรุงเทพฯมากขึ้น ทำให้มีการเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ CPN มีความโดดเด่นในการทำศูนย์การค้าที่เป็นไลฟสไตล์ ทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าเพื่อพักผ่อนและรับประทานอาหารมากขึ้นด้วย

ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการในศูนย์การค้าของ CPN ในกรุงเทพฯ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 70-90% หลังจากที่เริ่มมีการเปิดเมือง แม้ว่าในปัจจุบันอาจจะมีความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอยู่บ้าง แต่มองว่าคนยังมีการออกมาเดินและซื้อของในห้าง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด ทำให้แนวโน้มของจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าของ CPN ในภาพรวมกลับมาอยู่ไนระดับสูง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ธ.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top