ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 4,079 ราย ATK 1,220 ตาย 39 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,079 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,974 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 70 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 19 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 16 ราย ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา 3 ราย, สวิตเซอร์แลนด์ อิสราเอล ฝรั่งเศส ประเทศละ 2 ราย, สหราชอาณาจักร อุซเบกิสถาน สวีเดน เยอรมนี ไต้หวัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกัมพูชา (ช่องทางธรรมชาติ) ประเทศละ 1 ราย
  • ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 1,220 ราย
  • เสียชีวิต 39 ราย เป็นเพศชาย 16 ราย เพศหญิง 23 ราย อายุเฉลี่ย 71 ปี (อายุระหว่าง 40-102 ปี) โดยเป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 27 ราย คิดเป็น 69% อายุน้อยกว่า 60 ปี และมีโรคเรื้อรัง 10 ราย คิดเป็น 26% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 5%

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,164,859 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 7,302 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 21,151 ราย

จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 664 ราย, นครศรีธรรมราช 371 ราย, สงขลา 226 ราย, สุราษฎร์ธานี 146 ราย, ชลบุรี 140 ราย, สมุทรปราการ 130 ราย, ปัตตานี 107 ราย, เชียงใหม่ 88 ราย, ชุมพร 82 ราย และตรัง 78 ราย

จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรวันที่ 10 ธ.ค.64 มีจำนวนทั้งหมด 8,224 ราย เข้ามาในกลุ่มไม่ต้องกักตัว (Test&Go) 7,223 ราย, Sandbox 778 ราย, Quarantine 7 วัน 24 ราย, Quarantine 10 วัน 187 ราย และ Quarantine 14 วัน 12 ราย

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 269,420,435 ราย เสียชีวิต 5,311,481 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 50,705,257 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,682,614 ราย อันดับ 3 บราซิล 22,184,824 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 10,719,165 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 9,956,679 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24

นอกจากนี้ มีการรายงานพบโควิดสายพันธุ์ใหม่โอมิครอน รวมทั่วโลกแล้ว 65 ประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top