เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ 33.60 แข็งค่าหลังดอลลาร์อ่อนจากคลายกังวลโอมิครอน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.60 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังตลาดคลายกังวลการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่มีบทวิเคราะห์ออกมาว่าผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ไม่มีอาการรุนแรงและยังไม่มีผู้เสียชีวิต ทำให้ตลาดหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงกันมากขึ้น

“บาทแข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากตลาดคลายกังวลเรื่องโอมิครอนแล้วหันมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.50-33.70 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (7 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.21227% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.27207%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.46 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.67/69 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1276 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1269/70 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.822 บาท/ดอลลาร์
  • นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่มีการสั่งล็อกดาวน์หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนรายแรกในประเทศไทย พร้อมทั้งขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และมั่นใจในความพร้อมระบบสาธารณสุขของไทย รวมทั้งขอให้รับฟังการรายงานสถานการณ์จากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก
  • ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส.ระบุราคาสินค้าเกษตรเดือน ธ.ค.64 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพาราแผ่นดิบ มันสำปะหลัง สุกร และกุ้งขาวแวนนาไม หลังสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลาย และความต้องการสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการจับจ่ายภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยกำลังหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อออกแนวนโยบายกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่นำมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์หน้า รวมทั้งจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) ขานรับแรงซื้อก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ รวมทั้งการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 72 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่าการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกหยุดชะงักลง
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังคลายวิตกเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
  • สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลง 3.6% ในไตรมาส 3/2564 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า GDP หดตัวลง 3% เนื่องจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
  • ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้ ได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนต.ค.ของญี่ปุ่น, ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค.และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ของสหรัฐ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top