พญ. สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในไทยนั้น ได้มีประกาศออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งไม่มีการเปิดรับนักเดินทางจาก 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่ 1 ธ.ค. 64 ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ก่อนหน้าที่จะมีประกาศนั้น ได้มีการติดตามตัวและรายงานเป็นระยะ
โดยข้อมูลผู้เดินทางจากแอฟริกาเข้ามาทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 15-27 พ.ย. (กลุ่มเสี่ยงสูง 8 ประเทศ) และช่วง 15 พ.ย.-5 ธ.ค. 64 (ประเทศเสี่ยงต่ำอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา) พบว่า กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามคือ 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งมีทั้งหมด 333 คน โดยเข้ามาทางสนามบินในกรุงเทพฯ และสนามบินภูเก็ต แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก ออกนอกประเทศไปแล้ว 61 คน กลุ่มสอง กักตัวครบแล้ว 14 วัน มี 105 คน และกลุ่มสาม ยังกักตัวไม่ครบ 14 วัน มี 167 คน ซึ่งคนกลุ่มที่สามนี้ จะต้องติดตามให้มาตรวจ RT-PCR ซ้ำ
“เราส่งข้อความไปให้เขากลับมาตรวจ RT-PCR ซ้ำในสถานพยาบาลใกล้บ้าน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งทั้ง 167 คนนี้ ตามได้แล้ว 44 คน และล่าสุด มีรายงานเพิ่มเข้ามาอีก รวมแล้วเป็น 50 คน ยังเหลืออีก 133 คน ที่ต้องตามต่อเนื่อง ทั้งส่งข้อความผ่านอีเมล ในแอปฯ หมอชนะ ทางโทรศัพท์ของโรงแรม ซึ่ง ศบค.ไปยัง ททท. ให้ติดตามโรงแรมที่เปิดรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ จะต้องลงแอปฯ หมอชนะ เพื่อเป็นช่องทางในการติดตามตัวให้ทำ RT-PCR รวมถึงเมื่อพ้นกำหนดกักตัวแล้ว ยังใช้ติดตามอาการในแต่ละวันด้วย” พญ.สุมณี กล่าว
ส่วนกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำอื่นๆ 453 คน ไม่ต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ แค่คอยติดตามอาการตัวเอง หลังจากพ้นการกักตัว 14 วัน หรือออกจาก sandbox แล้ว ซึ่งภายหลังถ้าพบว่ามีอาการจึงค่อยตรวจ
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ติดตามผู้เดินทางเข้าประเทศไทย จาก 8 ประเทศได้แล้วจำนวน 44 คน คิดเป็น 26% เบื้องต้นผลการตรวจ RT-PCR ยังไม่พบเชื้อโควิด-19 และสายพันธุ์โอไมครอน ถือว่ามีความปลอดภัย ได้เร่งติดตามผู้เดินทางจำนวนที่เหลือให้มารับการตรวจ รักษาและคุมไว้สังเกตต่อไป
“ผู้เดินทางเข้าประเทศกลุ่มนี้ แม้จะมาจากพื้นที่ที่พบสายพันธุ์โอไมครอน แต่จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มประเทศแอฟริกาจะเข้าประเทศไทยด้วยระบบแซนด์บ็อกซ์และกักตัว ซึ่งมีข้อกำหนดว่าต้องได้รับวัคซีนครบโดส มีผลการตรวจหาเชื้อ RT-PCR เป็นลบก่อนเข้าประเทศ 72 ชั่วโมง ตรวจ RT-PCR ซ้ำตั้งแต่วันแรกที่มาถึง และตรวจ ATK อีกครั้งเมื่ออยู่ในแซนด์บ็อกซ์ครบ 7 วัน จึงเดินทางต่อได้ แต่ที่ต้องติดตามให้มาตรวจหาเชื้อก็เพื่อให้เกิดความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอให้งดลงทะเบียนขอเข้าประเทศสำหรับผู้ที่จะเดินทางมาจาก 8 ประเทศดังกล่าว (บอตสวานา เอสวาตีนี เลโซโท มาลาวี นามิเบีย แอฟริกาใต้ โมซัมบิก และซิมบับเว) ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 64 ส่วนที่ได้รับอนุญาตแล้วสามารถเดินทางเข้ามาได้ถึงวันที่ 30 พ.ย. และให้เข้าสู่ระบบการกักตัว 14 วันทั้งหมดเพื่อตรวจหาเชื้อเป็นระยะ ขณะนี้ยังตรวจไม่พบเชื้อ และตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ห้ามไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ ซึ่งจะส่งเข้าระบบการกักตัว จึงไม่ต้องกังวล ส่วนผู้เดินทางจากประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา กำหนดให้ต้องเข้าสู่ระบบการกักตัว 14 วันและตรวจหาเชื้อ 3 ครั้งเช่นกัน เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยสูงสุดสำหรับประชาชนไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 64)
Tags: COVID-19, RT-PCR, ตรวจโควิด-19, ศบค., สุมณี วัชรสินธุ์, โควิด-19