นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้แสดงความคิดเห็นเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค) ว่า การออกมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อสกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทอดทิ้งประเทศใดประเทศหนึ่งหรือภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง “มิเพียงแต่ไม่เป็นธรรมและเปรียบเสมือนการลงทัณฑ์เท่านั้น แต่ยังไร้ประสิทธิภาพอีกด้วย”
ทั้งนี้ นายกูเตอร์เรสได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในรัฐนิวยอร์กว่า ทางเดียวที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อในขณะที่อนุญาตให้มีการเดินทางและการดำเนินธุรกิจตามปกติ คือการตรวจหาเชื้อซ้ำสำหรับนักเดินทาง โดยให้สอดประสานไปกับการบังคับใช้มาตรการอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสมและประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
“เรามีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัย ฉะนั้น ทุกฝ่ายควรใช้เครื่องมือเหล่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับใช้มาตรการการเดินทางแบบแบ่งแยกชนชาติ ซึ่งกระผมคิดว่าเป็นเรื่องที่มิอาจยอมรับได้”
นายกูเตอร์เรสกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายกูเตอร์เรสได้กล่าวย้ำเตือนถึงอันตรายของความไม่เสมอภาคในการเข้าถึงวัคซีนทั่วโลกอยู่บ่อยครั้ง โดยระบุว่า ประเทศที่มีอัตราการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ “คือแหล่งเพาะไวรัสกลายพันธุ์”
“คำสั่งห้ามการเดินทางเหล่านี้ไม่สมเหตุสมผล” นายมูสซา ฟาคี มาฮามัต ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพแอฟริกากล่าวที่การแถลงข่าวร่วมกับนายกูเตอร์เรส หลังเสร็จสิ้นการประชุมประจำปีระหว่าง UN และสหภาพแอฟริกา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 64)
Tags: UN, มูสซา ฟาคี มาฮามัต, สหภาพแอฟริกา, อันโตนิโอ กูเตอร์เรส, แอฟริกาใต้, โควิด-19