ได้เวลาจอดเรือเทียบท่าแล้วหรือยัง?…ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index (BDI) ปรับฐานลงไปยืนที่ระดับกว่า 2,000 จุด จากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ต.ค.64 ขึ้นไปยืนในระดับสูงถึง 5,647 จุด ขณะที่ล่าสุด (30 พ.ย.64) ฟื้นตัวเด้งขึ้นมาอยู่ที่ 3,018 จุด ซึ่งยังสูงกว่าช่วงต้นปีนี้ ณ วันที่ 4 ม.ค.64 อยู่ที่ 1,374 จุด เห็นถึงการพุ่งขึ้นของดัชนี BDI กว่า 100% ดังนั้น ผลงานของกลุ่มเดินเรือในปีนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
นอกจากนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์หลายสำนักวิจัย พบว่าแนวโน้มดัชนี BDI ในปีหน้า (2565) จะยังมีทิศทางที่ปรับขึ้นได้ต่อ แม้อาจจะไม่ได้ขยับขึ้นไปไกลมากเหมือนที่เกิดขึ้นในปีนี้ก็ตาม โดยมองเป็นการปรับขึ้นตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลให้การขนส่งเป็นที่ต้องการและยังเดินหน้าต่อไปได้
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มดัชนี BDI ในปี 65 มีโอกาสปรับขึ้นได้อีกเล็กน้อย จากการเติบโตเศรษฐกิจโลกที่ยังไปต่อได้ การขนส่งที่ Demand ยังสูง ทำให้ยังมี upside ไปได้อีก
แม้ 1 เดือนที่ผ่านมาดัชนีค่าระวางเรือจะมีการปรับตัวลงไปแถว 2,400 จุด แต่ล่าสุดก็เด้งขึ้นมาแถว 3,000 จุด ทำให้มองว่าค่าระวางเรือจะยังยืนในระดับสูงได้ต่อเนื่องถึงปีหน้า และดัชนีค่าระวางเรือแถว 3,000 จุด ก็ยังทำให้บริษัทเดินเรือสามารถทำกำไรได้ แต่ผลกำไรอาจจะสู้ไตรมาส 3/64 ที่เป็นช่วงพีคไม่ได้
สำหรับผลกำไรของกลุ่มบริษัทเดินเรือในปีนี้ (2564) ต่างสามารถทำกำไรกันได้ดีจากค่าระวางเรือที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างชัดเจน ทำให้ปีนี้กำไรของบริษัทในกลุ่มเดินเรือจะออกมาค่อนข้างดีทีเดียว แต่ราคาหุ้นก็ได้มีการเล่นเก็งกำไรกันไปบ้างแล้ว
“คาดว่าจะมีนักลงทุนติดหุ้นในกลุ่มเดินเรือกันมาก จากการลงทุนไปในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย.ที่ผ่านมา ดังนั้น จึงยังไม่ต้องรีบเข้าไปลงทุนในช่วงนี้ที่ดัชนี BDI รีบาวด์กลับขึ้นมาเหนือ 3,000 จุด เพราะราคาน้ำมันและราคาถ่านหินยังปรับตัวลง ทำให้มองว่าช่วงนี้ยังไม่ต้องรีบลงทุนหุ้น Global play แต่ให้หันไปลงทุนหุ้น Domestic play ก่อนดีกว่า”
ด้าน บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะ”เพิ่มน้ำหนักลงทุน”หุ้นกลุ่มเดินเรือ จากค่าระวางเรือ (BSI Index) เฉลี่ยปี 2565 ที่คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงที่ประมาน USD20,000/วัน ลดลงจาก 2564 YTD เฉลี่ยที่ USD26,873/วัน ซึ่งยังถือเป็นระดับเหนือ breakeven ที่ USD8,000/วัน
ทั้งนี้ ค่าระวางเรือ (forward curve) ยังมีโอกาสที่จะดีกว่าคาด จาก Global Demand ที่มีแรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวหลังโควิด ส่วน Supply ยังตึงตัวจาก order book ที่อยู่ในระดับต่ำสุดในทศวรรษที่ 6-7% ในขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงเฉลี่ย -40% ใน 3 เดือน ส่งผลให้ valuation กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ไตรมาส 1 จะเข้าสู่ช่วง Low season มีวันหยุดยาวและการขนส่งเรือเทกองที่เบาบางลง ระยะสั้นอาจได้รับแรงกดดันจากดัชนีค่าระวางที่ปรับตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล
พร้อมแนะ”ซื้อ”หุ้น TTA ราคาเหมาะสม 15 บาท โดยบริษัทไม่ได้มีการทำสัญญาระยะยาว เน้นการทำสัญญาอิง spot rate ซึ่งอาจได้รับผลประทบเมื่อค่าระวางปรับลดลง ทั้งนี้ บริษัทยังมีธุรกิจนอกชายฝั่งที่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น และธุรกิจปุ๋ยเคมีที่ยังเติบโตได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมแนะ”ซื้อ”หุ้น PSL ราคาเหมาะสม 20 บาท โดย PSL ได้มีการทำสัญญา fix contract ระยะยาวเพิ่มสำหรับเรือขนาด Handysize 2 ลำ ที่ค่าระวางราว USD37,000/วัน และ USD21,000/วัน
เปิด 3 หุ้นชั้นนำในกลุ่มเดินเรือที่ให้อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Return On Equity/ROE) เฟื่องฟู ดังนี้
หุ้น | ROE Q3/64 (เท่า) | ROE ปี 63 (เท่า) | P/E(เท่า) | P/BV (เท่า) | DY (%) | ราคาหุ้น (บาท) |
---|---|---|---|---|---|---|
RCL | 81.29 | 21.19 | 3.04 | 1.77 | 1.23 | 40.75 |
PSL | 22.52 | -11.94 | 8.97 | 1.80 | – | 15.70 |
TTA | 13.32 | -11.33 | 6.82 | 0.83 | 0.22 | 9.15 |
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 64)
Tags: Infographic, PSL, RCL, TTA, ขนส่งทางเรือ, ค่าระวางเรือ, วิจิตร อารยะพิศิษฐ