เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับปี 2564 ขึ้นเล็กน้อย สืบเนื่องมาจากการกำหนดราคาที่แข็งแกร่ง อุปสงค์ผู้บริโภคที่ฟื้นตัว และอุปทานชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่งเกินคาด
ทั้งนี้ นายพอล จาคอบสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ GM เปิดเผยเมื่อวันพุธ (1 ธ.ค.) ว่า ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้านี้ที่ได้รับการปรับขึ้นมาแล้วที่ระดับราว 1.15 – 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์
“ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า เราได้รับประโยชน์ทางด้านต้นทุน และปริมาณอุปทานชิปสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ในตอนแรก” นายจาคอบสันเปิดเผยในงานพบปะนักลงทุนที่ทางเครดิต สวิสเป็นผู้จัดขึ้น
นอกจากนี้ นายจาคอบสันยังยกความดีความชอบในการปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการครั้งนี้ให้กับ “ความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภค” พร้อมทั้งระบุว่า GM กำลังติดตามผลกระทบของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอย่าง “ใกล้ชิด” แต่ทางบริษัทไม่ได้นำความเสี่ยงของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวมาพิจารณาในการคาดการณ์ผลประกอบการครั้งนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การคาดการณ์ผลประกอบการครั้งใหม่ของ GM มีแนวโน้มที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับเหล่านักลงทุนและบรรดานักวิเคราะห์วอลล์สตรีทซึ่งก่อนหน้านี้ผิดหวังที่ GM ออกคาดการณ์ผลประกอบการอยู่ที่ระดับสูงสุดของกรอบคาดการณ์ที่บรรดานักวิเคราะห์ประเมินไว้เท่านั้นในช่วงที่บริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 64)
Tags: GM, รถยนต์, สหรัฐ, เจเนอรัล มอเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์