ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 4,886 ราย ATK 1,651 ตาย 43 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,886 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 4,566 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 149 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 165 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 6 ราย เดินทางมาจากประเทศไอซ์แลนด์ (Test&Go ประจวบคีรีขันธ์), สิงคโปร์ (Test&Go ภูเก็ต), ญี่ปุ่น (Test&Go สมุทรปราการ), กัมพูชา (Test&Go สมุทรปราการ), สวิตเซอร์แลนด์ (Test&Go ชลบุรี) และมัลดีฟส์ (Test&Go กทม.) ประเทศละ 1 ราย
  • ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 1,651 ราย
  • เสียชีวิต 43 ราย เป็นชาย 25 ราย หญิง 18 ราย อายุ 5 เดือน-100 ปี (เฉลี่ย 76 ปี) แบ่งเป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 34 ราย คิดเป็น 79% อายุน้อยกว่า 60 ปี และมีโรคเรื้อรัง 6 ราย คิดเป็น 14% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 5% และมีเด็กชายอายุ 5 เดือน 1 ราย คิดเป็น 2% โดยเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,120,758 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 6,326 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 20,814 ราย

จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 794 ราย, สงขลา 270 ราย, สุราษฎร์ธานี 240 ราย, นครศรีธรรมราช 204 ราย, ชลบุรี 198 ราย, เชียงใหม่ 171 ราย, สมุทรปราการ 140 ราย, ปัตตานี 119 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 117 ราย และชุมพร 100 ราย

จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรวันที่ 30 พ.ย. 64 มีจำนวน 4,475 ราย เข้ามาในกลุ่มไม่ต้องกักตัว (Test&Go) 4,034 ราย, Sandbox 306 ราย, Quarantine 7 วัน 16 ราย Quarantine 10 วัน 104 ราย และ Quarantine 14 วัน 15 ราย

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 263,035,743 ราย เสียชีวิต 5,233,046 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 49,428,913 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,595,573 ราย อันดับ 3 บราซิล 22,094,459 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 10,228,772 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 9,636,881 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top