นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้และการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน จะส่งผลให้การจ้างงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง และเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับสถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐ
“ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับไวรัสจะทำให้ประชาชนไม่เต็มใจที่จะกลับไปทำงานในออฟฟิศ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ตลาดแรงงานชะลอตัวลง และยิ่งทำให้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานมีความตึงเครียดมากขึ้น” นายพาวเวลกล่าวในร่างแถลงการณ์ที่เตรียมไว้เพื่อแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ (30 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ
นายพาวเวลกล่าวว่า ภาวะไร้สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานซึ่งมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เป็นผลมาจากราคาที่พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในบางรายการ โดยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พุ่งขึ้น 5% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี
“เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ว่า สถานการณ์เงินเฟ้อและผลกระทบด้านอุปทานจะยืดเยื้อเพียงใด แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นในขณะนี้ก็คือปัจจัยต่าง ๆ ที่กำลังผลักดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดแรงงานที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และค่าแรงที่สูงขึ้นนั้น ก็เป็นปัจจัยที่หนุนตัวเลขเงินเฟ้อให้สูงขึ้นเช่นกัน” นายพาวเวลกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการฯ ร่วมกับนายพาวเวลในครั้งนี้ด้วย โดยทั้งนายพาวเวลและนางเยลเลนจะต้องยื่นรายงานต่อสภาคองเกรสในทุกไตรมาส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งบังคับใช้ในเดือนมี.ค. 2563 โดยรายงานดังกล่าวครอบคลุมถึงโครงการปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินของเฟดด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 64)
Tags: ธนาคารกลางสหรัฐ, เจอโรม พาวเวล, เฟด, เศรษฐกิจ