นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บล.คิงส์ฟอร์ด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ บมจ.ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ (TRV) เปิดเผยว่า TRV กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 54.56 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.30 บาท/หุ้น เปิดให้จองซื้อในวันที่ 24-26 พ.ย.และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 2 ธ.ค.64 ในหมวดสินค้าอุตสาหกรรม ในชื่อหลักทรัพย์ว่า “TRV”
สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 2.30 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 17.69 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ 1 ต.ค.63-30 ก.ย.64)
ล่าสุด TRV ได้ลงนามแต่งตั้ง บล.คิงส์ฟอร์ด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมด้วยผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 1 แห่ง คือ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)
นายธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TRV เปิดเผยว่า บริษัทวางกลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ พร้อมสร้างผลประกอบการที่ดีในระยะยาว การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai เพื่อสนับสนุนให้ TRV มีศักยภาพและความพร้อมสูงในการเติบโตรองรับความต้องการของลูกค้า และความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ ประมาณ 125.50 ล้านบาท ไปใช้เป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องจักร 85 ล้านบาทภายในปี 68 จำนวนเครื่องจักร 15 เครื่อง ซึ่งจะสนับสนุนให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 94 ล้านชิ้น, ชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน 10 ล้านบาทภายในปี 66, ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 22.83 ล้านบาทภายในปี 66 และเป็นค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์ 7.67 ล้านบาท
นายธีรวุฒิ กล่าวว่า TRV มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น และภายหลังสถานการณ์โควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งกำลังซื้อที่ฟื้นตัวรับมาตรการภาครัฐ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่สนับสนุนการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า และเน้นการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทาน จนทำให้ปัจจุบันไทยเป็นศูนย์การผลิตและการส่งออกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสริมโอกาสให้ธุรกิจชิ้นส่วน และเพิ่มศักยภาพให้ TRV ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ด้านนางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ความน่าสนใจของ TRV มีจุดแข็งและกลยุทธ์ ในความเชี่ยวชาญตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปี ได้รับความไว้วางใจในการผลิตและส่งมอบสินค้า ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปชิ้นส่วนประกอบของรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น เป็นหนึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท ซึ่งผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปนั้นนับเป็นส่วนสำคัญอย่างมากและมีความต้องการในตลาดสูง การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ในครั้งนี้ จึงเป็นการสนับสนุนแผนการขยายกำลังการผลิต และการแข่งขันในตลาด เพื่อรองรับโอกาสเติบโตในอนาคต
สำหรับผลประกอบการช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (61-63) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 146.40 ล้านบาท 168.55 ล้านบาท และ 159.65 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 23.59 ล้านบาท 25.27 ล้านบาท และ 21.20 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 63 แม้ลูกค้าของ TRV จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการที่ดีได้
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 64 มีรายได้รวม 134.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.34 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 114.37 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 22.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.76% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 15.32 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 16.53 % และ 13.42 % ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 64)
Tags: IPO, mai, TRV, คิงส์ฟอร์ด, ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์, วรนันท์ ถาวรนันท์, หุ้นสามัญเพิ่มทุน, หุ้นไทย, อุตสาหกรรม, เอ็ม เอ ไอ