นายเจฟฟ์ เซียนท์ส ผู้ประสานงานด้านการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ประจำทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่มีแผนล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อยับยั้งโควิด-19 ในอนาคต
สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ความเห็นของนายเซียนท์สมีขึ้นหลังจากออสเตรียใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 4 ส่วนเนเธอร์แลนด์ทำการล็อกดาวน์บางส่วนขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นทั่วยุโรปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
นายเซียนท์สกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะพึ่งพาการฉีดวัคซีนและการรักษาโรคแทนการล็อกดาวน์ เพื่อให้ประเทศดำเนินต่อไปได้ในกรณีที่เกิดโควิดระลอกใหม่
“เรายับยั้งการระบาดของไวรัสโควิดได้โดยไม่ต้องชัตดาวน์เศรษฐกิจ เรามีประชาชนที่ฉีดวัคซีนหนึ่งเข็มแล้ว 82% และมีคนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละสัปดาห์” นายเซียนท์สกล่าว
นายเซียนท์สเรียกร้องให้มีการฉีดวัคซีนครบโดส ตลอดจนฉีดเข็มบูสเตอร์และโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐ “ก้าวถอยหลังไม่ว่าในรูปแบบใด”
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์มากกว่า 60 ล้านคนยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็เรียกร้องผู้มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้มาลงทะเบียนฉีดวัคซีนก่อนเข้าช่วงวันหยุดเทศกาล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 64)
Tags: ทำเนียบขาว, ล็อกดาวน์, สหรัฐ, เจฟฟ์ เซียนท์ส, โควิด-19