บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (22-26 พ.ย.) มีแนวรับที่ 1,640 และ 1,630 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,665 และ 1,675 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ของไทย สถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนต.ค. ข้อมูล PMI เดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/64 และบันทึกการประชุมเฟด ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ข้อมูล PMI เดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย.ของจีน
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (15-19 พ.ย.) หุ้นไทยขยับขึ้นแต่ลดช่วงบวกลงบางส่วนปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,645.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.68% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 83,748.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.19% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.71% มาปิดที่ 562.07 จุด
หุ้นไทยปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/64 ของไทยที่ออกมาดีกว่าคาด ประกอบกับมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์ และเทคโนโลยี จากรายงานข่าวการร่วมทุนระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทจัดการหนี้ รวมถึงข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทสื่อสาร อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงบวกลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังมีข่าว ธปท.ติดตามตรวจสอบธนาคารพาณิชย์หากขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยไม่ถูกต้อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 64)
Tags: SET, SET Index, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, บล.กสิกรไทย, หุ้นไทย