สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานผลการสำรวจของฟอร์เรสเตอร์ (Forrester) ระบุว่า ติ๊กต็อก (TikTok) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันวิดีโอสั้น ได้รับความนิยมในหมู่เด็ก ๆ ชาวอเมริกันแซงหน้าอินสตาแกรม (Instagram)
ผลสำรวจประจำปี 2564 ของฟอร์เรสเตอร์บ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี จำนวน 63% ใช้งานติ๊กต็อกในรายสัปดาห์ เมื่อเทียบกับจำนวน 57% ที่ใช้อินสตาแกรม โดยผลสำรวจล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่า ติ๊กต็อกผงาดขึ้นแซงหน้า หลังจากที่อินสตาแกรมขึ้นแท่นแอปพลิเคชันที่เด็ก ๆ ชาวอเมริกันใช้งานมากถึง 61% ในปี 2563 ขณะที่ 50% ใช้ติ๊กต็อกในปีดังกล่าว
เมื่อไม่นานมานี้ อินสตาแกรมซึ่งเป็นบริษัทลูกของเฟซบุ๊กได้รับผลกระทบจากการที่นางฟรานเซส ฮอเกน อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก ได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมของเฟซบุ๊กต่อสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐว่า เฟซบุ๊กมุ่งสร้างกำไรมากกว่าที่จะสนใจความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เนื่องจากอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กมักจะแสดงโพสต์ที่มียอดการกดไลก์กดแชร์สูง ซึ่งในบางกรณีก็เป็นโพสต์ที่อาจเป็นอันตรายกับผู้ใช้งาน
ทางด้านเฟซบุ๊กได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นเมตา (Meta) เมื่อช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนถึงจุดมุ่งหมายใหม่ของบริษัทที่จะเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นด้านโซเชียลมีเดีย ไปเป็นการพัฒนาเทคโนโลยี Metaverse อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ดี ติ๊กต็อกไม่ได้ถือว่าเป็นแอปโซเชียลมีเดียยอดนิยมอันดับหนึ่งของคนกลุ่ม Gen Z (9-24 ปี) ของสหรัฐ โดยผลสำรวจของฟอร์เรสเตอร์ระบุว่า ในแต่ละสัปดาห์ วัยรุ่นชาวอเมริกันนิยมใช้ยูทูบ (YouTube) ราว 72% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 69% ของปี 2563 ขณะที่ 54% ของ Gen Z ใช้สแนปแชท (Snapchat) รายสัปดาห์ในปีนี้ ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2563
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 64)
Tags: TikTok, ติ๊กต็อก, อินสตาแกรม, เฟซบุ๊ก