นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) เปิดเผยว่า รายได้งวดปี 64/65 (1 เม.ย.64-31 มี.ค.65) มีโอกาสทะลุเป้า 1.1 หมื่นล้านบาท หลังงวด 6 เดือนแรก (เม.ย – ก.ย.64) ทำได้แล้ว 5.9 พันล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นที่ 31.7% และ มีกำไรสุทธิ 862.2 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป ทั้งจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ การเร่งฉีดวัคซีน และมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล
สำหรับธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ ซึ่งมีสัดส่วนยอดขายมากที่สุด ประกอบกับการนำเครื่องจักรระบบอัตโนมัติความเร็วสูงมาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เตรียมพร้อมรับกับดีมานด์ที่จะเข้ามาในอนาคต ขณะที่ตลาดยุโรปยอดขายรายไตรมาสปรับตัวดีขึ้น ด้านตลาดในประเทศ คาดว่ายอดขายจะทยอยฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศ นอกจากนี้ Aeroflex อยู่ระหว่างปรับขึ้นราคาขายสินค้าเพื่อชดเชยต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการ และมีการปรับปรุงต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต
ด้านธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas และ TJM แนวโน้มยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน จากคำสั่งซื้อของกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายหลายทางทั้ง OEM/ ODM (Original Design Manufacturer) After Market และการส่งออก รวมไปถึงในอนาคตยังมีโอกาสได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่จะทำให้ความต้องการใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์เพิ่มขึ้นอีกด้วย
โดยธุรกิจในออสเตรเลีย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความนิยมท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นและความต้องการยานยนต์ประเภท Light Commercial Vehicle และ SUV ปรับสูงขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ออสเตรเลียได้คลายมาตรการล็อคดาวน์และเปิดประเทศแล้ว ทาง TJM จึงได้เตรียมความพร้อมรองรับลูกค้าในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายอีกด้วย
และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP ซึ่งมีสัดส่วนยอดขายในประเทศราว 95%คาดว่าจะเติบโตดีขึ้น เนื่องจากการเปิดประเทศและกิจกรรมต่าง ๆ ภายในประเทศที่เริ่มกลับมาตามปกติ ส่งผลให้ยอดขายบรรจุภัณฑ์ประเภทถ้วยน้ำดื่มที่ชะลอตัวเริ่มกลับมาดีขึ้น ด้านสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารยังคงมียอดขายที่เติบโตแม้เชผิญช่วงล็อคดาวน์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคมีความคุ้นชินและเลือกใช้งานตามความสะอาด ความปลอดภัย และความสะดวกในการบริโภค
นายเฉลียว กล่าวว่า EPG ตั้งงบลงทุน 3 ปี (65-67) สำหรับปรับปรุงการผลิตที่ 690 ล้านบาท พร้อมตั้งงบลงทุนสำหรับ M&A และ JV อีก 300 ล้านบาท และในปัจจุบันภาพรวมของบริษัทร่วมทุนและการร่วมค้าปรับตัวดีขึ้นทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมฉนวนกันความร้อน/เย็นและกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ โดย Aeroklas Duys (Pty) Ltd. แอฟริกาใต้ ได้รับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นและหลากหลายขึ้น และบริษัท ฟาร์แอร์โร จำกัด ได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการผลิตเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้ายานยนต์ OEM คาดว่าจะเริ่มผลิตภายในไตรมาส 4 งวดปี 64/65 (ม.ค.-มี.ค.65)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 64)
Tags: EPG, ฉนวนกันความร้อน, หุ้นไทย, อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป, เฉลียว วิทูรปกรณ์