นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กรมธนารักษ์ว่า ได้กำชับให้กรมธนารักษ์ จัดเก็บรายได้ให้ได้ตามเป้าหมายที่ 8.8 พันล้านบาท หลังจากปีงบประมาณ 2564 จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย
พร้อมให้กรมธนารักษ์ไปพิจารณาปรับค่าเช่าที่ราชพัสดุให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2565 ที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น โดยต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการและเอกชนที่เช่าที่ราชพัสดุว่าจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้มากน้อยเพียงใด ให้ดูตามสถานการณ์เป็นสำคัญ ซึ่งก็คงไม่ได้กระทบผู้เช่าทั้งหมด
รมว.คลัง กล่าวถึงการจัดสรรที่ราชพัสดุ 12 ล้านไร่ โดยขอให้เร่งสำรวจให้เกิดความชัดเจน เพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของประเทศ โดยเฉพาะการบุกรุกการใช้ที่ราชพัสดุ ต้องไปดำเนินการจัดระเบียบให้เหมาะสมถูกต้อง โดยในปีงบประมาณ 2565 ตั้งเป้าหมายการจัดสรรที่ราชพัสดุให้กับผู้มีรายได้น้อยที่บุกรุกการใช้ที่ราชพัสดุ จำนวน 1.1 หมื่นราย
“มาตรการบรรเทาผลกระทบในปี 2565 จะต้องทยอยปรับลดลง ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนมาตรการยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุให้กับที่ดินทางการเกษตร และที่อยู่อาศัย ยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบ” นายอาคม กล่าว
พร้อมระบุว่า กรมธนารักษ์ยังต้องเตรียมความพร้อม เนื่องจากประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมเอเปก 2022 แม้ว่ากระทรวงการต่างประเทศจะยังไม่ได้เลือกสถานที่ในการจัดประชุม แต่ในส่วนของกรมธนารักษ์ ในฐานะที่ดูแลศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.64 ถือเป็นสถานที่ที่มีศักยภาพในการรองรับการจัดประชุมดังกล่าวได้
ขณะที่ความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โซนซี จะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.66 ซึ่งล่าช้ากว่าเดิมเล็กน้อย โดยขณะนี้มีส่วนราชการหลายแห่งสนใจเข้ามาใช้พื้นที่แล้ว เช่นเดียวกับโครงการรามาฯ-ธนารักษ์ ที่ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยขณะนี้มีประชาชนให้ความสนใจจองห้องพักแล้ว 921 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 64)
Tags: กรมธนารักษ์, กระทรวงการคลัง, ราชพัสดุ, อาคม เติมพิทยาไพสิฐ