ยอดส่งออกรถยนต์ญี่ปุ่นเดือนต.ค.ร่วงเกือบ 37% เซ่นปัญหาซัพพลาย

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ยอดส่งออกรถยนต์ของญี่ปุ่นปรับตัวลงต่อเนื่องในเดือนต.ค. โดยดิ่งลง 36.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี อันเนื่องมาจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งกดดันให้ผู้ผลิตยานยนต์ภายในประเทศต้องลดการผลิต

แม้ยอดส่งออกรถยนต์เดือนต.ค.ชะลอตัวลงน้อยกว่าในเดือนก.ย.ที่ร่วงลง 40.3% แต่ตัวเลขส่งออกก็ปรับลงติดต่อกันเดือนที่สอง ซึ่งส่งผลให้ยอดการส่งออกสินค้าโดยรวมของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนต.ค.

ทั้งนี้ เหล่าผู้ผลิตยานยนต์ของญี่ปุ่นถูกกดดันให้ต้องลดการผลิตตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ชิปทั่วโลก และภาวะชะงักงันด้านอุปทานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่สูงขึ้น

สำหรับยอดการส่งออกสินค้าโดยรวมของญี่ปุ่นในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 9.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ย.ที่มีการขยายตัว 13% โดยยอดส่งออกสินค้ารวมทั้งหมดอยู่ที่ 7.18 ล้านล้านเยน (6.25 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการเติบโตในอัตราต่ำกว่าเลขสองหลักเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน

ส่วนยอดการนำเข้าสินค้าโดยรวมในเดือนต.ค.อยู่ที่ 7.25 ล้านล้านเยน (6.32 หมื่นล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 26.7% และปรับขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจากกลุ่มผู้ผลิต เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนต.ค.อยู่ที่ 6.737 หมื่นล้านเยน (586.8 ล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับการเกินดุลการค้าที่ 8.4080 แสนล้านเยน (7.3 ล้านดอลลาร์) ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว และทำสถิติขาดดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top