AMR คาดรายได้ปี 65 โต 40% พร้อมศึกษาร่วมทุน บจ.แตกไลน์สู่พลังงานทดแทน

นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) เปิดเผยว่า บริษัทศึกษารายละเอียดแผนการลงทุนแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อเปิดโอกาสสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นลักษณะการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจที่ล่าสุดได้เริ่มมีการเจรจากับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว 2-3 ราย คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1/65

สำหรับแผนการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนในปี 65 ที่บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ราว 1-2 พันล้านบาทในการขยายธุรกิจหลัก เช่น การเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายรองย่านรังสิต (Feeder Line) เป็นผู้ให้บริการเคเบิลคาร์เพื่อการท่องเที่ยว และให้บริการสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ (EV Charger Station) ที่ได้ร่วมกับองค์กรของภาครัฐและคาดว่าจะเปิดตัว EV Charger Station นำร่องอย่างเป็นทางการช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งมองว่าเป็นส่วนช่วยสนับสนุนธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring income) ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นแตะ 20% ภายในปี 66 จากปัจจุบันอยู่ที่ 5-7% เมื่อเทียบกับรายได้รวม

“แผนลงทุนโครงการพลังงานทดแทนบริษัทตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนโครงการ (IRR) ต้องไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมกับวางกลยุทธ์ลงทุนไว้หลายแนวทาง เช่น กรณีที่มีโอกาสได้ลงทุนโครงการใหญ่อย่างโซลาร์ฟาร์ม บริษัทมีศักยภาพลงทุนในโครงการขนาด 100 เมกะวัตต์อาจจะเป็นลักษณะร่วมทุนกับพันธมิตร โดยแหล่งเงินทุนจะเป็น Project Finance หรือใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินบางส่วน ขณะที่อีกรูปแบบคือการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ให้กับลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมหรือโรงแรมที่ต้องการประหยัดต้นทุนเรื่องการดำเนินงานหลังจากผ่านช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19”

นายมารุต กล่าว

ส่วนภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 4/64 บริษัทคาดว่าจะมีโอกาสเติบโตได้ดีกว่าไตรมาส 3/64 ตามการรับรู้รายได้จากปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีมูลค่า 1.2-1.3 พันล้านบาท ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนการได้รับงานเพิ่มเติมมูลค่า 600-700 ล้านบาทคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปลายปีนี้ ส่งผลให้ภาพรวม Backlog ณ สิ้นปี 64 มีโอกาสเพิ่มขึ้นไปแตะที่ 2 พันล้านบาทผลักดันทิศทางรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 1.6-1.7 พันล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานใหม่ภายในปี 65 มูลค่ากว่า 5.2 หมื่นล้านบาท และมีโอกาสชนะการประมูลได้รับงานราว 3-4 พันล้านบาทเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของ Backlog เป็นส่วนช่วยสร้างการเติบโตของรายได้รวมปี 565 มีโอกาสแตะ 2-2.5 พันล้านบาทหรือคิดเป็นการเติบโตราว 40% เมื่อเทียบกับฐานรายได้รวมปีนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top