นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 บริษัทเชื่อมั่นว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากพอร์ตโรงแรมในโครงการ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ ด้วยทำเลซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติหลักใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีทางเรือสปีดเฟอร์รี่ ต่างจากโรงแรมอื่นๆซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางนาน หรือต้องต่อเครื่องบินโดยสารในประเทศ
อีกทั้งโครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ เป็นโครงการแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนครบวงจรแห่งแรก และแห่งเดียวในมัลดีฟส์ ซึ่งมีความหลากหลายในการต้อนรับลูกค้าหลายกลุ่ม ไม่ได้จำกัดแค่เพียงกลุ่มคู่รัก ฮันนีมูน เท่านั้น
ฤดูกาลท่องเที่ยวในมัลดีฟส์ กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีพฤติกรรมการเข้าพักยาวกว่า และอ่อนไหวต่อราคาน้อยกว่า ส่งผลดีต่ออัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR) และ รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ซึ่งบริษัทคาดว่าโรงแรมในพอร์ตเกือบทั้งหมดจะกลับมาเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4/64 สอดคล้องกับการผ่อนคลายมาตรการต่างๆด้านการเดินทางในหลายประเทศทั่วโลก
สำหรับการเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาของ โรงแรม Outrigger Mauritius Beach Resort หลังจากปิดไปเกือบ 1 ปีเนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OCC) ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแกร่งที่ 40% พร้อมโมเมนตัมดีต่อเนื่องตลอดฤดูกาลท่องเที่ยว เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าประจำที่เดินทางกลับมาเยือนอีกครั้ง บริษัทฯมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการฟื้นตัวของผลประกอบการของโรงแรมดังกล่าวจะเป็นไปอย่างรวดเร็วคล้ายกับพอร์ตโรงแรมในโครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์
ส่วนโรงแรมในประเทศอื่นๆที่พึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามการกลับมาของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ ทั้งนี้พอร์ตโรงแรมในประเทศไทยของบริษัทฯ จะได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และความต้องการท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆจากทางภาครัฐ เช่น โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 รวมถึงการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ด้านแผนการเปิดประเทศของสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ ภาคท่องเที่ยวเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว เมื่อสายการบินหลายแห่งจะเริ่มกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางการบินตรงจากออสเตรเลียสู่ฟิจิ ซึ่งนักท่องเที่ยวจากประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ถือเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของพอร์ตโรงแรมฟิจิของบริษัทฯ ทั้งนี้ SHR คาดหวังว่า การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทย และสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ ภายหลังจากการเปิดประเทศ จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันกับ สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และสาธารณรัฐมอริเชียส
“เรามั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่ 4.5 พันล้านบาท ด้วยโมเมนตัมการท่องเที่ยวฟื้นตัวช่วงปลายปีจากไฮซีซั่นและมาตรการเปิดประเทศ โดยเรายังคงเดินหน้าตามแผนการเติบโตในระยะยาว ด้วยกลยุทธ์การจัดการรายได้และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงสินทรัพย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร ซึ่งเรายังมีความสามารถในการหาเงินทุนเพื่อรองรับการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต”
นายเดิร์ก กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,422 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ดันรายได้จากการขายและให้บริการงวด 9 เดือนของปี 64 ไปที่ 2,769 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน
โดยในช่วงไตรมาสที่ 3/64 ภาคการท่องเที่ยวในมัลดีฟส์ฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี หลังจากเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเอเชียใต้ โดย RevPAR ของพอร์ตโรงแรมในโครงการ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญถึง 57% กอปรกับ โรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต ได้รับผลตอบรับที่ดีจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเพิ่มสูงขึ้นถึง 36% สูงที่สุดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย
อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของผลการดำเนินงานพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักร สืบเนื่องจากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในไตรมาส 3/64 รวมถึงการยกเลิกมาตรการปิดเมืองทั้งหมด อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลาย และอัตราการได้รับวัคซีนในประชากรที่สูง หนุนให้การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักมากขึ้น โดยจะเป็นความต้องการท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเดียวกันกับพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักรของ SHR ที่โรงแรมส่วนใหญ่เป็นโรงแรมตั้งอยู่ตามภูมิภาค และไม่ได้พึ่งพานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากนัก
โดย ADR ของพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักรในไตรมาส 3/64 กลับมาสูงกว่า ADR ช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว 10% ผลักดันให้รายได้พอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักรเติบโตเกินคาด และเป็นแรงส่งสำคัญที่หนุนกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จากการดำเนินงานปกติของ SHR ในไตรมาส 3/64 พลิกกลับมาเป็นกำไรได้ที่ 252.5 ล้านบาท เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส นับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 ตอกย้ำภาพความสำเร็จของกลยุทธ์การเข้าลงทุนในพอร์ตโรงแรม สหราชอาณาจักร
บริษัทยังคงเดินหน้าต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโรงแรมสหราชอาณาจักร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการทำกำไร พร้อมขับเคลื่อนการฟื้นตัวของธุรกิจให้กลับมาอย่างแข็งแกร่งหลังโควิด-19 และความชัดเจนของเบร็กซิท (Brexit) ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 64)
Tags: SHR, หุ้นไทย, เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์, เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท