บริษัทโมเดอร์นาได้ออกมาปกป้องประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัท โดยระบุว่า ประโยชน์ของวัคซีนซึ่งสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรง, การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตนั้น มีมากกว่าความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis)
อย่างไรก็ดี ดร.พอล เบอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการแพทย์ของโมเดอร์นายอมรับว่า ผู้ชายอายุต่ำกว่า 30 ปีที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นานั้น มีโอกาสที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบออนเทค
ดร.เบอร์ตันได้อ้างถึงข้อมูลจากฝรั่งเศสที่เกี่ยวกับชายวัย 12-29 ปี โดยข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า พบผู้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 13.3 รายจากจำนวนผู้ฉีดวัคซีนโมเดอร์นาทั้งหมด 100,000 ราย เมื่อเทียบกับอัตราส่วน 2.7 ต่อ 100,000 รายในผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดของไฟเซอร์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โมเดอร์นาประกาศว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐจำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้ฉีดวัคซีน 2 โดสของโมเดอร์นาให้กับเด็กในช่วงอายุ 12-17 ปีหรือไม่ เนื่องจาก FDA จะพิจารณารายงานเรื่องภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
ดร.เบอร์ตันกล่าวด้วยว่า โมเดอร์นายังไม่พบกรณีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ของบริษัท พร้อมระบุว่า โมเดอร์นาจะยังคงตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อไป ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นแล้วนั้นโดยทั่วไปมีอาการเพียงเล็กน้อยและปกติจะหายได้เอง
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างข้อมูลของ CDC ว่า ขณะนี้ชาวอเมริกันมากกว่า 71 ล้านคนได้รับวัคซีนโควิดของโมเดอร์นาครบโดสแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 64)
Tags: CDC, FDA, Moderna, Pfizer, กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ, ผลข้างเคียง, วัคซีนต้านโควิด-19, สหรัฐ, โมเดอร์นา, ไฟเซอร์