นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ทาลิส เปิดเผยว่า บริษัทรเปิดกองทุนหุ้นต่างประเทศกองแรกและเป็นก้าวใหม่ที่จัดทำขึ้นด้วยความตั้งใจ และมองเห็นโอกาสในช่วงจังหวะที่ดีของการลงทุนในการเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทาลิส หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว-เฮดจ์ เนื่องจากในช่วงปลายปีนักลงทุนมักจะมองการลงทุนโดยพิจารณาจากแผนธุรกิจและแนวโน้มผลประกอบการของปีถัดไป ซึ่งหากคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกถือเป็นจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม
ทั้งนี้ บริษัทยังคงยึดมั่นในนโยบายการลงทุนของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง ในการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี แนวโน้มอัตราการเติบโตสูงซึ่งเป็นการลงทุนที่เน้นการกระจายความเสี่ยง โดยมองโอกาสในการลงทุนที่ยังคงมีความน่าสนใจและสามารถเติบโตได้ของตลาดหุ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีอัตราการเติบโตสูง คือ กลุ่มหุ้นนวัตกรรม ที่ยังคงเป็นกลุ่มขับเคลื่อนให้ผลตอบแทนของดัชนีอยู่ในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มการแพทย์ กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มบริการ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังมีรายได้ที่มาจากภูมิภาคอื่นนอกประเทศสหรัฐในสัดส่วนที่สูง การลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวจึงเป็นการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่จะส่งผลต่อวิถีชีวิตที่กำลังจะเปลี่ยนไปของโลกในอนาคตที่มิใช่เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา
กองทุน TLUSNDQ-H เป็นกองทุนรวมประเภท Feeder Fund ที่เน้นลงทุนในกองทุนรวมหลักในต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ กองทุน Invesco QQQ Trust, Series 1 โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนและลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยกองทุนหลักเป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund (ETF) ที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดจำนวน 100 บริษัทที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น NASDAQ และไม่เป็นสถาบันการเงิน โดยใช้นโยบายเชิงรับหรือลงทุนตามดัชนี NASDAQ-100 เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี NASDAQ-100 (ศึกษาข้อมูลกองทุนหลักได้ที่ www.invesco.com)
ทั้งนี้ กองทุน TLUSNDQ-H อาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยกองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ และในกรณีขายคืนจะได้รับเงิน T+3 โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นการลงทุนผ่านกองทุนรวม เทียบกับการลงทุนเองหรือลงทุนในรูปกองทุนส่วนบุคคล จะต้องมีการเสียภาษี Capital Gain Tax หากลงทุนเป็นระยะเวลาต่ำกว่า 1 ปี ทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดการเงินลงทุนมากกว่า
บลจ.ทาลิส ได้นำเสนอขายกองทุนดังกล่าวเป็น 2 ชนิดประกอบด้วย
1. กองทุนเปิดทาลิส หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว-เฮดจ์ (TLUSNDQ-H-A) ชนิดสะสมมูลค่า
2. กองทุนเปิดทาลิส หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว-เฮดจ์ (TLUSNDQ-H-SSF) ชนิดเพื่อการออม
บลจ.ทาลิส จะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดทาลิส หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว-เฮดจ์ (TLUSNDQ-H) ในระหว่างวันที่ 8 – 17 พ.ย. 2564 โดยในการลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไปขั้นต่ำ 1,000 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 64)
Tags: กองทุน, กองทุนรวม, กองทุนเปิด, บลจ.ทาลิส, ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์