หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าราคาไหลลงทั่วหน้า โดยเมื่อเวลา 11.59 น.นำโดยหุ้น GUNKUL ร่วง 11.48% มาอยู่ที่ 4.78 บาท ลดลง 0.62 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,221.06 ล้านบาท
- หุ้น GULF ลบ 3.51% มาอยู่ที่ 41.25 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,270.37 ล้านบาท
- หุ้น GPSC ลบ 3.50% มาอยู่ที่ 75.75 บาท ลดลง 2.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,691.60 ล้านบาท
- หุ้น BGRIM ลบ 2.86% มาอยู่ที่ 42.50 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 493.12 ล้านบาท
- หุ้น SOLAR ลบ 2.20% มาอยู่ที่ 1.78 บาท ลดลง 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.04 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าเช้านี้ปรับตัวลงกันทั่วหน้า คาดว่าจะเป็นแรงขายทำกำไรหลังจากที่ปรับขึ้นไปพอควรแล้ว และผลการดำเนินงานของบมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ก็ออกมาต่ำกว่าคาดด้วย ทำให้หุ้นตัวอื่นในกลุ่มโรงไฟฟ้าเผชิญแรงขายไปด้วย รวมถึงได้รับแรงกดดันจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น
GPSC และบริษัทย่อย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/64 มีกำไรสุทธิ 1.88 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.66 บาทลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.57 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.91 บาท
ทั้งนี้ หุ้น บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ปรับตัวลงนำตลาดฯหลังจากที่ราคาหุ้นปรับขึ้นไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ และผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/64 ก็มองว่าไม่น่าจะมีอะไร Surprise โดยในทางเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 4.74-4.70 บาท ส่วนแนวต้าน 4.90-5.00 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 64)
Tags: BGRIM, GPSC, GULF, GUNKUL, SOLAR, กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง, ณัฐพล คำถาเครือ, บล.หยวนต้า, หุ้นไทย, โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่, โรงไฟฟ้า