BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 32.90-33.50 จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-ประชุม กนง.

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90-33.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 33.34 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 33.22-33.48 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงดอกเบี้ยนโยบายในกรอบ 0-0.25% และประกาศลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ลง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนจาก 1.2 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ดี อัตราการลด QE ยังคงขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ประกาศคงดอกเบี้ย สวนทางกับที่ตลาดคาดไว้ว่าบีโออีจะเป็นธนาคารกลางชั้นนำแห่งแรกของโลกที่ขึ้นดอกเบี้ยหลังเหตุการณ์โรคระบาด ทั้งนี้ กรรมการ 7 ใน 9 ราย ลงมติคงดอกเบี้ยในรอบนี้ ส่วนอีก 2 ราย โหวตให้ขึ้นดอกเบี้ย 15bp ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,472 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 5,366 ล้านบาท

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ และสุนทรพจน์ของประธานเฟด หลังจากที่ในการประชุมรอบล่าสุด เฟดยอมรับว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงจนน่ากังวล ซึ่งเป็นผลของปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ยิ่งไปกว่านั้น ประธานเฟดยอมรับว่าภาวะเงินเฟ้อมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฟดวางแผนว่าจะปรับลด QE จนหมดราวกลางปี 2565 ส่วนประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย ประธานเฟดระบุว่าเฟดจะใช้ความอดทนต่อไป และจะรอให้การจ้างงานเติบโตขึ้นมากกว่านี้

กรุงศรี ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการตอบสนองของตลาดต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ที่ดีเกินคาดแต่กลับส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลง สะท้อนว่าแม้ในภาพใหญ่ อัตราดอกเบี้ยโลกเป็นขาขึ้น แต่นักลงทุนกำลังทบทวนมุมมองครั้งใหม่ จากที่ก่อนหน้านี้คาดว่าธนาคารกลางหลายแห่งจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว โดยผลการประชุมบีโออีได้จุดประกายให้บอนด์ยิลด์ทั่วโลกปรับฐานลง

สำหรับประเด็นในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.50% ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ขณะที่แนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น

อนึ่ง กรุงศรีมีมุมมองเชิงบวกต่อค่าเงินบาท จากประเด็นผลทดลองยารักษาโควิด-19 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง ส่วนเงินเฟ้อไทยยังไม่ใช่ข้อกังวลสำหรับผู้ดำเนินนโยบาย ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 2.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขี้น และผลกระทบจากอุทกภัยหนุนราคาผักสด โดยกระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้จะมีค่าเฉลี่ยที่ 1%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top