นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนหลังเงินเฟ้ออังกฤษปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ค่าครองชีพอาจพุ่งขึ้นแตะที่ 5%
นายเบลีย์กล่าวต่อสำนักข่าวบีบีซีว่า ภาคครัวเรือนรู้สึกถึงผลกระทบของราคาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว “ผมเสียใจอย่างยิ่งต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทั้งนั้น”
นายเบลีกล่าวว่า “เงินเฟ้อเป็นสิ่งที่กัดกินรายได้ของภาคครัวเรือนอย่างชัดเจน ผมมั่นใจว่าพวกเขารับรู้ได้แล้วว่าราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น” แต่กระนั้น เขายังระบุว่า BoE ต้องการรอดูว่า ปัญหาจากภายในและภายนอกประเทศที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพอย่างไร ก่อนตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
ปัจจุบันนี้เงินเฟ้อได้แซงหน้าเป้าหมาย 2% ของ BoE ไปแล้ว โดยอยู่ที่ระดับ 3.1% และคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นสู่ 5% ภายในเดือนเม.ย.ปีหน้า
สำหรับการประชุมประจำเดือนพ.ย.ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 พ.ย.) นั้น BoE ได้สร้างความประหลาดใจแก่ตลาดเงินด้วยการมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 0.1% ซึ่งสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
สาเหตุที่สมาชิกส่วนใหญ่ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน BoE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อจับตาดูว่าตลาดงานจะรับมือการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือแรงงานที่ถูกพักงานเนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 หรือ furlough scheme ได้อย่างไร พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง “หลายเดือนข้างหน้า” เนื่องจากคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 64)
Tags: ค่าครองชีพ, ธนาคารกลางอังกฤษ, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจอังกฤษ