นายพงศธร ปริญญาวุฒิชัย ฝ่ายวิจัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นำเสนอบทความ เรื่อง “เปิดข้อมูลการซื้อขาย DW ในตลาดหุ้นไทย สถานะ deep OTM โอกาสกำไรในความผันผวน?” โดยระบุว่า เมื่อปี 63 ใบสำคัญ แสดงสิทธิอนุพันธ์ (derivative warrants) หรือ DW มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 1.65 ล้านล้านบาท ทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 11 ปี และยัง มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.64 มีมูลค่าซื้อขายแล้ว1.58 ล้านล้านบาท
ขณะที่จำนวนบัญชีที่มีซื้อขาย (active account) ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เพราะจากการศึกษาพฤติกรรมและลักษณะการซื้อขาย ผ่านตลาดหลักทรัพย์ โดยใช้ข้อมูล big data ของการซื้อขายรายธุรกรรม (transaction data) พบว่า ในปี 59-62 มีจำนวนบัญชีที่มี ซื้อขาย DW อยู่ประมาณ 40,000-50,000 บัญชี แต่ในปี 63 จำนวนบัญชีซื้อขายเพิ่มขึ้นไปถึง 97,933 บัญชี หรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก ปี 62 และสิ้นเดือน ก.ย.64 มี 115,058 บัญชี โดย 99% เป็นบัญชีผู้ลงทุนบุคคล (retail investor) และกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน บัญชีที่เพิ่มขึ้นในปี 63 เป็นบัญชีของผู้ลงทุนรายใหม่ที่ไม่เคยมีการซื้อขายใน DW มาก่อน ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ DW ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความผันผวนของตลาดหุ้นไทยที่เพิ่มมากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ COVID- 19 เพราะยิ่งมีความผันผวนมาก ยิ่งมีโอกาสทำกำไรจาก DW ได้มากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนใน DW ได้ง่าย ใช้ เงินลงทุนน้อย และมีอัตราทด (gearing) สูง ขณะเดียวกัน ผู้ออก DW ยังออก DW ที่มีราคาถูกและมีอัตราทดสูง เพื่อจูงใจให้ผู้ลงทุนเข้า มาลงทุนมากขึ้นอีกด้วย
*DW สถานะ deep OTM: โอกาส หรือ ความเสี่ยง
สำหรับผู้ลงทุนใน DW จะรู้ว่า DW มีค่าสถานะ (moneyness) ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างราคาหุ้นหรือดัชนีอ้างอิงกับราคา ใช้สิทธิ์ของตราสารอนุพันธ์ อยู่ 3 สถานะคือ In-the-money (ITM) At-the-money (ATM) และ Out-of-the-money (OTM) โดยที่การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นหรือดัชนีอ้างอิงจะส่งผลถึงสถานะของ DW ทำให้สถานะของ DW แต่ละตัวจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตลอดช่วงอายุของ DW
ตารางเปรียบเทียบลักษณะของ DW ในแต่ละสถานะ (moneyness)
ราคาใช้สิทธิ | ราคา DW | ความเสี่ยง (gearing) | |
---|---|---|---|
In-the-money (ITM) | Call: ราคาใช้สิทธิ < ราคาตลาด Put: ราคาใช้สิทธิ > ราคาตลาด | มากที่สุด | ต่ำสุด |
At-the-money (ATM) | Call: ราคาใช้สิทธิ = ราคาตลาด Put: ราคาใช้สิทธิ = ราคาตลาด | ปานกลาง | ปานกลาง |
Out-of-the-money (OTM) | Call: ราคาใช้สิทธิ > ราคาตลาด Put: ราคาใช้สิทธิ < ราคาตลาด | น้อยที่สุด | สูงสุด |
จากความสัมพันธ์ค่าสถานะของ DW สามารถสรุปได้ว่า DW ที่มีสถานะ OTM จะมีราคาน้อยที่สุด เนื่องจากราคาของ DW นั้น จะเหลือเพียงแค่มูลค่าทางเวลาและยิ่งราคาของหุ้นอ้างอิงห่างกับราคาใช้สิทธิมากเท่าใด (ในสถานะ OTM) ราคา DW ก็จะยิ่งลดลง โดย จะเรียกสถานะนี้ว่า “deep OTM” ซึ่งเกิดจากราคาหลักทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก (ในกรณี call) หรือ ราคาใช้ สิทธิต่ำกว่าราคาหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นจำนวนมาก (ในกรณี put) ทำให้มีราคาถูกและอัตราทดสูง จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ลงทุน เพราะใช้ เงินลงทุนน้อย แต่มีโอกาสได้กำไรในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับเงินที่ลงทุนไป
เมื่อวิเคราะห์ “ค่าสถานะ” ของ DW ณ วันที่ยื่นขออนุญาตและวันซื้อขายวันแรก* พบว่าในปี 61-62 มีสถานะเป็น OTM โดยมี ค่าเฉลี่ย -4% ถึง -5% แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ค่าความผันผวนในตลาดหุ้น เพิ่มสูงขึ้น ผู้ออก DW ได้ออก DW ในลักษณะ OTM ค่อนข้างสูง โดยในปี 63 มีค่าเฉลี่ยถึง -22% และบางรายออก DW ที่มีค่าสถานะ deep OTM มากถึง -114.90%
การที่ผู้ลงทุนเข้าไปซื้อ DW ที่เป็นแบบ deep OTM นั้นมีโอกาสที่จะขาดทุนจาก DW ตัวนั้นสูงมาก เพราะแม้ว่า DW ที่เป็น แบบ deep OTM จะมีราคาถูกที่สุดและอัตราทดที่สูง แต่ต้องแลกกับความเสี่ยงที่สูงด้วยเช่นกัน ความเสี่ยงที่ว่านั้นคือ การที่ราคาของ DW นั้นไม่ขยับตามหุ้นอ้างอิง ซึ่งเกิดได้จากราคาของหุ้นอ้างอิงมีการแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ หรือมีความผันผวนที่ต่ำ จะทำให้มีโอกาสที่จะขาด ทุนมากกว่ากำไร เนื่องจากมูลค่าของ DW จะลดลงตามค่าเสื่อมเวลา (time decay) ที่ลดลงในแต่ละวันที่ผู้ลงทุนถือข้ามวัน *ผู้ลงทุน DW ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน
เมื่อศึกษาภาพรวมกำไรและขาดทุนก่อนหักค่าใช้จ่ายในการซื้อขายของผู้ลงทุนใน DW ตั้งแต่ปี 59-63 พบว่า จำนวนบัญชี มากกว่า 80% ขาดทุนสุทธิ และเมื่อจำแนกตามประเภทผู้ลงทุนพบว่า บัญชีผู้ลงทุนบุคคลจะขาดทุนสุทธิทุกปี ส่วนบัญชีหลักทรัพย์และบัญชีผู้ลงทุน ต่างชาติได้กำไรสุทธิทุกปี โดยบัญชีผู้ลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลพฤติกรรมการซื้อขายของผู้ลงทุน DW พบว่า บัญชีผู้ลงทุนบุคคล มีค่าเฉลี่ยการลงทุนใน DW ที่มีลักษณะ OTM มากที่สุด เมื่อเทียบกับผู้ลงทุนกลุ่มอื่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การซื้อ DW ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ลงทุนบุคคลส่วนใหญ่ขาดทุน
นอกจากนี้ DW เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความซับซ้อนสูง ผู้สนใจลงทุนควรศึกษาทำความเข้าใจถึงผลตอบแทนและความ เสี่ยงของ DW ในแต่ละประเภทก่อนเริ่มลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกลงทุนใน DW ที่เป็นแบบ deep OTM เพราะแม้จะมีโอกาสทำ กำไรได้มาก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำมาคำนวณค่าสถานะ คือ DW ที่มี SET50 เป็น underlying โดยใช้ underlying price และ exercise price ณ วันซื้อ-ขายวันแรกของ DW แต่ละตัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 64)
Tags: ก.ล.ต., ตลาดหุ้นไทย, พงศธร ปริญญาวุฒิชัย, หุ้นไทย