UNIQ ปิดขายหุ้นกู้ 2.44 พันลบ.เกินเป้าพร้อมรับงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่อเนื่อง

นายเติมพงษ์ เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปิดการขายหุ้นกู้ ที่เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่า 2,440.10 ล้านบาท โดยนำหุ้นกู้สำรองออกขายเพิ่มเติมจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,500 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในโอกาสการเติบโต และศักยภาพในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต

สำหรับหุ้นกู้ชุดดังกล่าว เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 8 เดือน กำหนดผลตอบแทนไว้ที่ 4.00% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป ผ่านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ BBB และอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทอยู่ที่ BBB+ แนวโน้ม Negative จัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 20 ก.ย.64

“ด้วยความสนใจซื้อหุ้นกู้ของผู้ลงทุนที่มีมากกว่าที่คาด ทำให้บริษัทตัดสินใจใช้หุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมเกือบเต็มมูลค่า จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้จำนวน 1,500 ล้านบาท โดยปัจจัยสนับสนุนให้การเสนอขายหุ้นกู้ประสบความสำเร็จอย่างมาก นอกจากจะมาจากความมั่นใจของนักลงทุนแล้ว ผลตอบแทนจากการลงทุนยังเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญ รวมถึงอันดับความน่าเชื่อที่ระดับ ลงทุนได้ (Investment grade) ทำให้หุ้นกู้ UNIQ เป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ หลังจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าขยายงานตามแผนที่วางไว้ต่อไป เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงให้กับธุรกิจ และคืนผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ” นายเติมพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ UNIQ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่มุ่งเน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น งานโยธาสถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านบริหารการจัดการและการเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงให้เหมาะสม และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดินทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน

โดยลูกค้าของบริษัทฯ จะเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รวมถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นต้น เนื่องจากผลงานของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณภาพและการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มีโอกาสรับงานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งและสามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้อย่างสม่ำเสมอ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top