หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ รอเฟด-งบ Q3/64 คาดเผชิญแรงขายหุ้นพลังงาน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ จากนักลงทุนรอผลการประชุมเฟด การประกาศผลประกอบการในไตรมาส 3/64 ของบริษัทจดทะเบียนไทย อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันอ่อนตัวลง แต่ก็จะมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด แนวต้าน 1,625-1,630 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะแกว่งไซด์เวย์ จากนักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของบริษัทจดทะเบียนในไทย รวมทั้ง คาดว่าตลาดจะถูกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันอ่อนตัวลง จากกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ มีการรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจเกิดแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น

ขณะที่ตลาดน่าจะมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เข้ามา หลังธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) มีมติอนุมัติให้บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) บริษัทในกลุ่ม SCB เข้าลงทุนในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub Online Co., Ltd.) ผู้นำด้านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทย (Digital Asset Exchange) โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 51% เพื่อดำเนินธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ประกอบกับธนาคารกรุงเทพ (BBL) ก็ออกมาเผยมุมมองว่าอาจจะมีการตั้งสำรองลดลงในไตรมาส 4/64

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน

พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625-1,630 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,052.63 จุด เพิ่มขึ้น 138.79 จุด หรือ +0.39%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,630.65 จุด เพิ่มขึ้น 16.98 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,649.60 จุด เพิ่มขึ้น 53.69 จุด หรือ +0.34%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 38.74 จุด และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.52 จุด ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันวัฒนธรรมแห่งชาติ

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 พ.ย.)1,617.89 จุด เพิ่มขึ้น 4.11 จุด (+0.25%)

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 628.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 พ.ย.64

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 พ.ย.) ปิดที่ระดับ 83.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2%

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 พ.ย.) อยู่ที่ 7.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.30 อ่อนค่าจากวานนี้ตามทิศทางตลาด จับตาผลประชุมเฟดคืนนี้

– “ผอ.ศปก.ศบค.” ขอเวลา 15 วัน ประเมินผลเปิดประเทศ ก่อนพิจารณาคลายล็อก เพิ่มกลาง พ.ย. “สถานบันเทิง-ผับบาร์” รอลุ้น “หอการค้า” เชื่อภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว ลุ้น 2 เดือน นักท่องเที่ยวเข้า 6 แสน ปีหน้าคาด 10 ล้านคน สธ. เผยต่างชาติเข้าไทยวันแรกตรวจไม่พบคนติดเชื้อ แนะนายจ้างประสานฉีดวัคซีนให้ต่างด้าวที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ยอดฉีดวัคซีน 31 จังหวัดครอบคลุมประชากร 50% แล้ว

– “เอกชนระดมแพ็กเกจใหม่ ชงรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่รับเปิดประเทศ สรท.เสนอ 10 เรื่องฟื้นชีพเอสเอ็มอี หอการค้าไทย จี้เร่งปลดล็อกมาตรการฟื้นฟู-พักทรัพย์พักหนี้ 3.5 แสนล้าน กกร.เตรียมประเมินผลเปิดประเทศ 3 พ.ย.นี้ ด้านสทท.เสนอรัฐหนุน ATK ฟรีดันซิงเกิลแอพ-ตั้งกองทุนหมื่นล้านช่วยอุตฯท่องเที่ยว

– “สุพัฒนพงษ์” เป็นประธานประชุม “กบน.” เคาะเห็นชอบเกณฑ์การกู้เงินตามที่ สกนช.นำเสนอ เตรียมชง ครม.เห็นชอบภายใน พ.ย.นี้ เพื่อเดินหน้ากู้ตามระเบียบที่กำหนดไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท เร่งเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ เพื่อตรึงดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตรต่อเนื่อง เหตุกองทุนฯ นับถอยหลังถังแตก! เหลือเงินแค่ 7,000 ล้านบาท อาจรับมือได้ไม่ถึงสิ้นปี รับสภาพทางตัน หลังคลังเมินลดภาษีสรรพสามิต-กนป.ไม่ให้ลดผสมบี 100

– นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ได้ประเมินมูลค่าการส่งออกไทยในปี 65 จะขยายตัว 5% ด้วยมูลค่า 272,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งอยู่บนสมมติฐานค่าเงินบาทเคลื่อนไหวที่ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 85 เหรียญฯ/บาร์เรล และค่าระวางเรือไม่สูงจนเกินไป ส่วนปี 64 คาดจะขยายตัวได้สูงถึง 12% ที่มูลค่า 259,500 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นการฟื้นตัวหลังจากเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญฟื้นตัวเร็วจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้มีความต้องการสินค้าที่มีมากกว่าปกติ

– แบงก์ชาติสั่งยกระดับตรวจสอบร้านค้ารับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์-คิวอาร์โค้ดทั่วประเทศกว่า 8 ล้านราย ออกไกด์ไลน์ให้สถาบันการเงินตรวจสอบ-ติดตามความเสี่ยงร้านค้าใกล้ชิดสกัดช่องทางทุจริต-ฟอกเงิน บังคับใช้ 1 ม.ค.65 เพิ่มมาตรการติดตามความเสี่ยงร้านค้ากำหนดเกณฑ์เสี่ยงร้านค้า 3 กลุ่ม พร้อมทำรายชื่อร้านค้า “วอตช์ลิสต์” “กสิกรไทย-กรุงศรีฯ-เคทีซี” ขานรับตรวจสอบร้านค้าปีละครั้ง เพิ่มความเข้มงวดร้านค้าเสี่ยง-กำหนดวงเงินตามประเภทธุรกิจ ชี้พบความผิดปกติพร้อมยกเลิกให้บริการทันที

 

หุ้นเด่นวันนี้

– PTT (เอเชียเวลท์) “ซื้อ” เป้า 48 บาท คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 3Q64 อยู่ที่ 22,915 ล้านบาท ลดลง 6.8%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 62.3%YoY โดยธุรกิจหลักได้รับผลกระทบจากการหยุดซ่อมโรงแยกก๊าซฯ หน่วยผลิตที่ 6 ตามแผน รวมไปถึง Low season ของความต้องการใช้ก๊าซฯ ในภาคการผลิตไฟฟ้า และผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ กระทบปริมาณจาหน่ายก๊าซฯ และยอดขายก๊าซฯของโรงแยกก๊าซฯ รวมไปถึงการรับรู้กำไรจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ลดลง เนื่องจากไม่มีกำไร

พิเศษมากเหมือน 2Q63 ที่ผ่านมา แม้ธุรกิจ E&P จะมีกำไรสุทธิที่ดีขึ้น ไม่สามารถชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามแนวโน้ม 4Q64 เราคาดกำไรสุทธิจะกลับมาฟื้นตัวทั้ง QoQ และ YoY จากการกลับมาดำเนินการผลิตของโรงแยกฯ 6 รวมไปถึงผลประกอบการของธุรกิจ E&P และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ฟื้นตัว

– HMPRO (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 17 บาท ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของ HMPRO ขึ้นเป็น 17 บาทจากเดิม 16.5 หลังจากมีมุมมองเชิงบวกอย่างมากจาก SSSG ที่คาดว่าจะกลับมาเป็น +2 ในปีนี้จากเดิมคาดว่าจะ -5% และทิศทางการฟื้นตัวของ SSSG จะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องในปีหน้าและปีถัดไปเพื่อสะท้อนคาดการณ์ดังกล่าวเราจึงปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2021-2023 ขึ้น 11%, 5% และ 4% ตามลำดับ

– SCB: (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 135-140 บาท คาดกำไรปี 65 SCB เติบโตจากรวมงบของ Bitkub Online หลังปิดดีลต้นปี 65 Bitkub เป็น Exchage คริปโต Platform ซึ่งมี Market Share อันดับ 1 ในไทย (9M21 กำไร 1.5 พัน ลบ.) คาดปีหน้าจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ SCB โดย KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 64-65 (ก่อนรวม Bitkub) ที่ 3.5 หมื่น ลบ. และ 3.9 หมื่น ลบ. +31%YoY, 10%YoY ส่วนหลังปี 65 จาก Sentivity Analysis คาดกำไรจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 1-2 พัน ลบ. (Base Case)คาดเพิ่มมูลค่าให้ราคาหุ้น SCB 5-10 บาท/หุ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top