เกาะติดกับหนึ่งปัจจัยสำคัญของบทสรุปการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ นับเป็นการประชุมนัดสำคัญที่ผู้ลงทุนทั่วโลกต่างเฝ้าจับตากันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดการณ์ถึงโอกาสที่เฟดจะประกาศลดวงเงินอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบผ่านมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (quantitative easing: QE) อย่างเป็นทางการ ภายหลังจากที่เคยส่งสัญญาณขีดเส้นดีเดย์เริ่มลดวงเงิน QE ช่วงปลายปี 64 เป็นต้นไป และอาจสิ้นสุดการดำเนินนโยบายดังกล่าวภายในกลางปี 65 ก่อนจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป
ผลพวงของสภาพคล่องที่จะหดตัวครั้งใหญ่ตามแผนดึงเงินจำนวนมหาศาลกลับของเฟดในรอบนี้ กำลังกลายเป็นหนึ่งปัจจัยเสี่ยงหลักกดดันการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นที่มาของการประเมิน กรณีเลวร้ายสุด อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้ลงทุนในระลอกแรก จนเกิดเป็นแรงขายอย่างหนักฉุด SET Index ส่อร่วงแตะ 1,550 จุดภายในระยะเวลาไม่กี่วันทำการได้ !!
แต่ทางกลับกันหากเฟดค่อยๆ ปรับลดวงเงิน QE ช้ากว่าคาด กรอบเพดานด้านบนของ SET Index ก็มีลุ้นเปิดกว้างวิ่งสู่จุดสูงสุดเดิมแถว 1,700 จุดได้เช่นกัน และคำตอบของการวางกลยุทธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงควบคู่ไปกับการสร้างผลกำไรจากความผันผวนในรอบนี้จะมีแนวทางอย่างไร…ไปฟังเคล็ดลับการวางหมากลงทุนในโหมด “Safe Zone” แบบฉบับของนายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการ บล.เคทีบีเอสที (KTBST)
ทั้งนี้ รายการ “Wealth Me Please” จะนำข้อมูลความรู้ด้านการเงินและการลงทุน ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่านนำมาต่อยอดช่วยสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยตัวเอง พบกันทุกวันอังคารที่ https://youtube.com/c/InfoQuestNews
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 64)
Tags: QE, SET, SET Index, WealthMePlease, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, ธนาคารกลางสหรัฐ, หุ้นไทย, เฟด