นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงต่อ จากนักลงทุนยังคงรอดูผลประชุมเฟด ว่าจะเป็นอย่างไร รวมถึงผลประกอบการบจ.ในไตรมาส 3/64 ขณะเดียวกันตลท.ก็มีการเฮียริ่ง ปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้นร้อนแรง ก็อาจกระทบต่อการซื้อขายในระยะสั้น เพื่อรอความชัดเจน ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวบวกลบสลับกัน พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,607 จุด และแนวต้าน 1,620-1,630 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดปรับตัวลงต่อ จากนักลงทุนยังคงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาส 3/64 ที่ทยอยประกาศออกมา อีกทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) ปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้นร้อนแรง ตั้งแต่วันที่ 1-12 พ.ย.นี้ จึงส่งผลต่อการลงทุนในระยะสั้น
ทั้งนี้มองว่าตลาดหุ้นไทยยังรอจุดเปลี่ยน โดยเฉพาะเรื่องของความชัดเจนของการเปิดประเทศ ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างไร จะมีมาตรการอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เช่น ช้อปดีมีคืน ที่จะมาช่วงกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยปลายปี ตลอดจนมาตรการคนละครึ่งในปีหน้า เป็นต้น
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน
พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,607 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,630 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,913.84 จุด เพิ่มขึ้น 94.28 จุด หรือ +0.26%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,613.67 จุด เพิ่มขึ้น 8.29 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,595.92 จุด เพิ่มขึ้น 97.53 จุด หรือ +0.63%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 184.68 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 454.69 จุด และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.10 จุด
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 พ.ย.)1,613.78 จุด ลดลง 9.65 จุด (-0.59%)
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,565.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 พ.ย.64
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 พ.ย.) ปิดที่ระดับ 84.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.6%
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 พ.ย.) อยู่ที่ 8.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.27 แข็งค่าจากวานนี้หลังดอลลาร์อ่อน ให้กรอบวันนี้ 33.20-33.40
– “เปิดประเทศวันแรกคึกคัก นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยกว่า 2.4 พันคนรวมยอด 1-5 พ.ย.ไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นคน ยันตรวจโควิด-19 เข้ม ผู้ว่าฯ กทม.ลั่นยังไม่เพิ่มเวลาดื่มในร้าน เกิน 3 ทุ่ม กินไม่หมด ก็ทิ้ง ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจทั้งวันทั้งคืน ศปก.ศบค.สั่งคุมเข้มธุรกิจท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการ เผยยอดติดเชื้อใหม่ 8,165 ราย ตาย 55 ราย ศบค.สั่งใช้ไฟเซอร์ 2 เข็มฉีด 4 จังหวัดชายแดนใต้สู้เชื้อระบาด “โมเดอร์นา” ล็อตแรก 5.6 แสนโดสถึงไทยแล้ว เร่งตรวจคุณภาพก่อน ส่ง รพ.เอกชนทั่วประเทศ สธ.เปิดคลินิกกัญชาอีกครั้ง หลังปิดยาวจากโควิด-19 กทม. ถกร้านเน็ต-เกม คาดให้เปิดกิจการ 15 พ.ย.
– ภาคธุรกิจ เดินเครื่องกิจกรรม เศรษฐกิจสะพัดกว่า 2 พันล้าน กระตุ้นบรรยากาศจับจ่ายโค้งสุดท้ายรับเทศกาลแห่งความสุข “เซ็นทรัลพัฒนา” ขึ้นจอยักษ์ 7 ภาษา “Welcome to Thailand” หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ผนึกพันธมิตรอัดโปรฯ พิเศษดึงทัวริสต์
– ททท.คาดหลังเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย.มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเดือนละ 3 แสนคน ตลอดปีนี้อาจได้ 7 แสนคน ขณะที่ภูเก็ตขอดูช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน พ.ย. ก่อน แต่คาดเดือนนี้อาจได้วันละ 1,000 คน หรือเดือนละ 30,000 คน ส่วนเดือน ธ.ค.เพิ่มเป็นวันละ 3,000 คน หรือ 90,000 คน
– ประชาชนแห่ลงทะเบียน “คนละครึ่ง” เฟส 3 รอบเก็บตก 1.19 แสนสิทธิอย่างไว ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงเศษหมดเกลี้ยง “โฆษกรัฐบาล” แย้มคลังกำลังพิจารณาทำโครงการเฟส 4 ต้นปี 65 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เผยเป็นโครงการโดนใจประชาชน ลดค่าครองชีพ ร้านค้าชอบ ส่วนยอดรวมใช้จ่ายล่าสุดทะลุ 1.19 แสนล้านบาท ใช้จ่ายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี 1,004 ล้านบาท
– ตลท.เฮียริ่งปรับปรุงเกณฑ์กำกับการซื้อขาย ยกระดับดูแลหุ้นร้อน จากปีนี้พบหุ้นเล็กพุ่งแรงไร้ปัจจัยพื้นฐานหนุน จ่อสั่งห้ามซื้อขายเป็นการชั่วคราว 1 วันทำการ หากเข้าข่ายระดับ 3 เตรียมไม่นำหุ้นติดแคชบาลานซ์มาคำนวณดัชนี มีผลรอบ 1 ม.ค.65 ส่วนเกณฑ์ฟรีโฟลท ต้องให้เวลาปรับตัว
– แบงก์พาณิชย์ เดินหน้าช่วยลูกหนี้ รอดพ้นโควิด-19 ไทยพาณิชย์ ตั้งเป้าปรับโครงสร้างหนี้ แบบเบ็ดเสร็จช่วยลูกหนี้ 5 แสนล้าน “ทีทีบี” ชี้ยอดลูกหนี้รับความช่วยเหลือวูบเหลือ 12% “กรุงศรีฯ” มียอดช่วยเหลือลูกหนี้แล้ว 13%
– JP (โกลเบล็ก) บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี เข้าเทรดวันแรก (ราคา IPO 7 บาท) ประกอบธุรกิจ พัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เวชภัณฑ์ และแอลกอฮอล์ทำความสะอาด ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้าและของบริษัท เสนอขายหุ้น IPO 115 ล้านหุ้น เพื่อใช้ลงทุนปรับปรุงและขยายโรงงาน, โฆษณาตราสินค้า เป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระคืนหนี้ P/E เสนอขาย ที่ 100x คำนวณจากกำไรสุทธิงวด 12 เดือนที่ผ่านมา ที่ 31.85 ลบ. มีEPS เท่ากับ 0.07 เทียบกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจคล้ายกัน APCO 41.29x IP 59.90x DOD 146.68x
– SECURE (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 34.00 บาท ผู้บริหารคาดรายได้ปี 22 มีโอกาสทะลุ 1 พัน ลบ. หลังดีล M&A งาน Cyber Security มีความต้องการสูง พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคลจ่อบังคับใช้ปีหน้า ขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง ประกอบกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองหนุนมาร์จิ้น ลุ้น Market Share ขยับขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในไทย อุตสาหกรรม Cyber Security เติบโตเฉลี่ย CAGR 3 ปี +15% ต่อปี ปีหน้าธุรกิจ Cloud-ICT infra มีงานประมูลแน่น Cyber Security คิดเป็น 15-20% ของมูลค่างาน ดังนั้น SECURE มีโอกาสได้งานใหม่สูง
– SMT (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” เป้า 8 บาท แนวโน้ม Q3/64 คาดยังแข็งแกร่งทั้ง Q-Q และ Y-Y จากคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่ครอบคลุมทั้งปีแล้ว และคาดเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องใน Q4/64 เช่นเดียวกับ Margin ที่เติบโตตาม Utilization Rate คาดกำไรปี 64-65 +175% Y-Y และ +33% Y-Y ตามลำดับ และเป็นกลุ่มที่คาดได้อานิสงส์ระยะยาวจากเทรนด์ Digital ที่เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนประเด็นความกังวลน้ำท่วมปัจจุบันอยุ่ในระดับต่ำมาก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 64)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, หุ้นไทย