นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า KBank Private Banking เชื่อมั่นในเรื่องการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน ด้วยหลักการ Risk-Based Asset Allocation ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจาก Lombard Odier พันธมิตรทางธุรกิจ โดย Lombard Odier เชื่อว่า วิธีการที่ดีที่สุดในการกระจายและจัดสรรการลงทุน คือการบริหารจัดการความเสี่ยงของพอร์ตให้อยู่ในระดับที่ตั้งไว้ และใช้ความเสี่ยงเป็นเกณฑ์ในการกระจายการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์”
หลักการ Risk-Based Asset Allocation จะการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์โดยการพิจารณา “ความเสี่ยง” ของสินทรัพย์เป็นหลัก มีการบริหารเงินลงทุนตามกรอบความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้ โดยกระบวนการจัดสรรเงินลงทุนจะใช้ข้อมูลความเสี่ยงของสินทรัพย์หลากหลายประเภทเป็นตัวตั้งต้นหลัก และปรับสัดส่วนเงินลงทุนตามการเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละประเภท ทำให้ในระยะยาวสินทรัพย์ทุกประเภทสามารถให้ผลตอบแทนเป็นบวก ซึ่งจะมากหรือน้อยนั้นแตกต่างกันตามวัฎจักรเศรษฐกิจ ดังนั้นความสำเร็จของการสะสมความมั่งคั่งในระยะยาวคือ การจัดการความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน โดยไม่มีการกำหนดสัดส่วนเงินลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ “ที่แน่นอน” สัดส่วนในการลงทุนจะปรับเปลี่ยนไปตามความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ล่าสุด KBank Private Banking จึงร่วมกับ Lombard Odier ออกกองทุนใหม่ K-ALLROAD-UI ที่บริหารและกระจายการลงทุนบนหลักการที่คำนึงถึงความเสี่ยง (Risk-Based Asset Allocation) เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ให้กับพอร์ตการลงทุนของลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงในทุกสภาวะตลาด โดยกองทุน K-ALLROAD-UI มีความโดดเด่นที่ทำให้กองทุนนี้พิเศษกว่ากองทุน Risk-Based อื่น ได้แก่ กระจายความเสี่ยงไปยังทุกสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งในสินทรัพย์ดั้งเดิมและสินทรัพย์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ตราสารอ้างอิงผลตอบแทนจากเงินเฟ้อ และความผันผวนของตลาด เพราะเมื่อบางสินทรัพย์ปรับตัวลงแรง สินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีจะช่วยพยุงพอร์ตได้ ช่วยให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนที่คาดไว้
ขณะเดียวกันก็ยังกระจายการลงทุนในทุกภูมิภาคทั่วโลก ทั้งตลาดพัฒนาแล้ว และตลาดเกิดใหม่ ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยง อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากการเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรม และประเทศต่างๆทั่วโลก โดยพอร์ตการลงทุนถูกบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เหมาะเป็นพอร์ตลงทุนหลัก ทุกการซื้อ-ขาย จะมีขั้นตอนที่ชัดเจน จากข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่า การบริหารพอร์ตและการบริหารอารมณ์มักจะขัดแย้งกันเสมอ แม้แต่กับนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ
“เราเชื่อว่าการนำกลยุทธ์บริหารจัดการที่เป็นระบบเข้ามาผสมควบคู่ไปกับการบริหารแบบดั้งเดิมเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยป้องกันความผิดพลาดจากอารมณ์ส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ช่วยสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอให้กับนักลงทุน มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น จากผลการดำเนินงานกองทุน 9 ปีที่ผ่านมา กองทุนหลักให้ผลตอบแทนเป็นบวก 100% (ถ้าลงทุนอย่างน้อย 3 ปี) และสามารถคุมผลขาดทุนสูงสุดใน 1 ปี ได้ตามที่คาด มีการบริหารจัดการและปรับสัดส่วนในการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ตามความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไปให้อยู่ในกรอบที่ตั้งไว้ ที่สำคัญที่สุดคือระบบการบริหารจัดการความเสี่ยงขาลง ช่วยจำกัดการขาดทุนแม้ในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือในสภาวะตลาดที่ทุกสินทรัพย์ปรับตัวลงพร้อมกัน อีกทั้งทุกสินทรัพย์ที่ลงทุนมีสภาพคล่องทั้งสิ้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตให้มีผลขาดทุนจำกัดอยู่ในระดับที่ตั้งไว้”
นายจิรวัฒน์ กล่าว
โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนหลัก LO FUNDS – ALL ROADS SYST. NAV HDG, (USD) I เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 55 มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสูงกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสามารถให้ผลตอบแทนถึง 60.8% (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ต.ค. 64) ค่าความผันผวนต่อปีที่ 4.9% ผลขาดทุนสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นอยู่ที่ 8.0% และด้วยหลักการลงทุนแบบ Risk-Based Asset Allocation ทำให้ KBank Private Banking เชื่อมั่นงว่ากลยุทธ์การลงทุนนี้ จะสามารถสร้างผลตอบแทนตามที่คาดหวังได้อย่างต่อเนื่อง ในทุกวัฎจักรเศรษฐกิจ และคาดดว่ากองทุน K-ALLROAD-UI จะมีผลตอบแทนคาดหวังสูงกว่าเงินฝากระยะสั้น 4% ต่อปีในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และโอกาสที่จะขาดทุนสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 10%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 64)
Tags: KBANK, KBank Private Banking, กองทุนรวม, จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์, ธนาคารกสิกรไทย