รัฐบาลออสเตรเลียออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า ชาวออสเตรเลียที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว สามารถเดินทางไปยังต่างประเทศได้อย่างเสรีตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 ที่รัฐบาลได้อนุญาตให้พลเมืองเดินทางออกนอกประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียได้ทำการแก้ไขข้อข้อกฎหมาย Human Biosecurity Determination ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำหนดขึ้นในเดือนมี.ค. 2563 เพื่อควบคุมการเดินทางไปยังต่างประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อยกเลิกข้อกำหนดที่ว่า ชาวออสเตรเลียที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วจะต้องขออนุญาตจากรัฐบาลเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ
นายเกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีสาธารณสุขและงานดูแลผู้สูงอายุของออสเตรเลียกล่าวว่า การอนุญาตดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกในการเปิดประเทศของออสเตรเลีย
“พลเมืองออสเตรเลียและผู้ที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยถาวรในออสเตรเลียที่ต้องการเดินทางไปยังต่างประเทศ จะต้องยื่นหลักฐานที่แสดงว่าได้รับวัคซีนครบโดสแล้วกับทางสำนักงานผลิตภัณฑ์รักษาโรคแห่งออสเตรเลีย (TGA) โดยการฉีดวัคซีนโดสที่สองจะต้องเกิดขึ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันก่อนการเดินทาง”
นายฮันท์ กล่าว
สำหรับประชาชนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนั้น จะต้องยื่นเรี่องกับกระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศเพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ และต้องทำตามมาตรการกักตัวที่เข้มงวดมากขึ้นเมื่อเดือนทางกลับเข้าประเทศ
ข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขออสเตรเลียระบุว่า ณ ช่วงเช้าของวันนี้ (27 ต.ค.) ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศกว่า 1,800 ราย และพบผู้เสียชีวิต 16 ราย ขณะที่ออสเตรเลียยังคงเดินหน้ารับมือกับการแพร่ระบาดระลอกที่ 3
นอกจากนี้ มีรายงานว่า TGA ได้อนุมัติการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ของบริษัทไฟเซอร์ให้กับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป หลังจากประชาชนเหล่านี้ได้รับวัคซีนโดสที่สองแล้วเป็นเวลา 6 เดือน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 64)
Tags: ฉีดวัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, ออสเตรเลีย, เกร็ก ฮันท์, เดินทางระหว่างประเทศ, เปิดประเทศ, โควิด-19