สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรม พุ่งขึ้น 16.3% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 7.3874 แสนล้านหยวน (1.1572 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัว 10.1% แม้ภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น รวมทั้งปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน
ที่ผ่านมานั้น ภาคอุตสาหกรรมของจีนได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหินที่สูงขึ้น รวมทั้งภาวะขาดแคลนอุปทาน และการปันส่วนการใช้พลังงานเนื่องจากปัญหาขาดแคลนถ่านหิน อันเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลตั้งเป้าลดการปล่อยมลพิษ
อย่างไรก็ดี รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมราคาโลหะที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และบรรเทาภาวะขาดแคลนพลังงานในประเทศ ซึ่งรวมถึงการเรียกร้องให้บรรดาเหมือนถ่านหินเร่งเพิ่มการผลิต และบริหารจัดการอุปสงค์ด้านไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
รัฐบาลจีนเปิดเผยในเดือนนี้ว่า รัฐบาลจะอนุญาตให้ราคาพลังงานที่ต้องใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงนั้น ปรับตัวขึ้นลงได้มากถึง 20% จากระดับฐาน ซึ่งจะช่วยให้โรงงานไฟฟ้าสามารถผลักภาระต้นทุนด้านการผลิตที่สูงขึ้นไปให้กับกลุ่มผู้ใช้งานในภาคการค้าและอุตสาหกรรม
ส่วนในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. กำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวขึ้น 44.7% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 6.34 ล้านล้านหยวน ซึ่งชะลอลงจากช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ที่มีการขยายตัว 49.5%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 64)
Tags: NBS, จีน, อุตสาหกรรมจีน, เศรษฐกิจจีน