SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,640.90 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,103 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งย่ำฐานค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-เปิดประเทศมากนัก แต่มองเป็นโอกาสซื้อสะสม เป้าดัชนีฯปลายปีให้ไว้ 1,700 ซึ่งงบฯไตรมาส 3/64 ภาคเอกชนในต่างประเทศส่วนใหญ่ออกมาดี-หนุน S&P500 บวกต่อเนื่อง และราคาน้ำมันยังสูง แต่บ้านเรามองข้ามงบฯไตรมาส 3/64 ที่คาดว่าเป็นจุดต่ำสุด อย่างไรก็ดีเช้านี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มแบงก์หลังงบฯออกมาดี หวังรับประโยชน์เศรษฐกิจฟื้น-มาตรการกระตุ้น ส่วนกลุ่มพลังงานต้นน้ำรับผลบวกราคาน้ำมันทรงตัวสูง ด้านกลุ่ม Domestic play รับผลดีมาตรการภาครัฐฯ แต่วอลุ่มเทรดแผ่วลงก่อนเข้าหยุดยาว ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งกรอบแคบ บ่ายนี้ตลาดฯคงย่ำฐาน-วอลุ่มบาง ให้แนวรับ 1,638-1,635 แนวต้าน 1,350 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,640.90 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,103 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,646.50 จุด และระดับต่ำสุด 1,639.59 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งย่ำฐานค่อนข้างจะเงียบ ไม่ค่อยตอบรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และการเปิดประเทศเท่าใดนัก ทั้งที่มองเป็นบวก แต่การพักตัวก็เป็นโอกาสที่จะซื้อสะสมได้ โดยมองเป้าดัชนี SET ในช่วงปลายปีนี้ไว้ที่ 1,700 จุด
ขณะที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/64 ของบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศส่วนใหญ่ออกมาดีเกินคาด ทำให้ S&P500 ยังบวกได้อย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนบ้านเรามองข้ามไปงบไตรมาส 3/64 ไปแล้วเพราะน่าจะเป็นจุดต่ำสุดจากผลกระทบการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ดี เช้านี้ตลาดบ้านเรายังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มแบงก์หลังจากผลประกอบการออกมาดี นำโดย KBANK ดีเกินคาดจากตั้งสำรองฯลดลง และการควบคุมค่าใช้จ่าย อีกทั้งมองกลุ่มแบงก์ได้ประโยชน์จากมุมมองเศรษฐกิจฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานต้นน้ำ ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันทรงตัวสูง อย่างหุ้น PTT, PTTEP ด้านราคาถ่านหิน และก๊าซ ก็ยังทรงตัวสูงด้วยเช่นกัน รวมไปถึงหุ้น Domestic play ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นจากมาตรการของภาครัฐฯ โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศก็ยังซื้อได้เมื่อราคาย่อตัวลง
ทั้งนี้ วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมเริ่มเห็นการแผ่วลงตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่มีวอลุ่มไม่ถึง 68,000 ล้านบาท จากปกติเทรดวันละเกือบ 9 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะติดวันหยุดต่อเนื่องด้วย อย่างไรก็ดีให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ต่อไป ซึ่งก็มี SCB, BBL ที่ยังไม่ประกาศออกมา และสัปดาห์หน้าก็จะเป็นการทยอยประกาศผลประกอบการกลุ่ม Real Sector ที่จะเริ่มทยอยออกมาในช่วงปลายสัปดาห์
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบในลักษณะย่ำฐาน วอลุ่มเทรดก็คงจะยังน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,638-1,635 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,966.59 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,575.12 ล้านบาท ปิดที่ 122.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
SPALI มูลค่าการซื้อขาย 1,079.61 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
LH มูลค่าการซื้อขาย 965.35 ล้านบาท ปิดที่ 8.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 860.61 ล้านบาท ปิดที่ 12.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ, หุ้นไทย