เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (12 ต.ค. 64) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คมปาซุ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม 2564 หลังจากนี้จะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันดังกล่าว
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าพายุ “คมปาซุ” กำลังจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามในวันที่ 13-14 ต.ค.นี้ ทำให้ทั่วประเทศรวมทั้ง กทม.อาจเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง
ที่ผ่านมา กทม.ได้รับมือกับน้ำเหนือในแม่น้ำเจ้าพระยา และเตรียมพร้อมรับฝนที่จะอาจตกหนักในพื้นที่ กทม. จากอิทธิพลของพายุลูกนี้ ซึ่งจะใช้การระบายน้ำทางธรรมชาติด้วย คู คลองและแม่น้ำ คู่กับการระบายน้ำโดยใช้หลักวิศวกรรม เพื่อลดผลกระทบจากน้ำที่อาจท่วมขังได้เมื่อมีฝนตกหนัก
กทม.ได้ติดตามข่าวสาร พายุ “คมปาซุ” อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมการระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ต.ค. 64)
Tags: กรุงเทพมหานคร, คมปาซุ, ฝนตกหนัก, พยากรณ์อากาศ, พายุโซนร้อน