เว็บไซต์การ์เดียน ออสเตรเลีย เผยแพร่บทความซึ่งระบุว่า กลุ่มพันธมิตรด้านสุขภาพ ธุรกิจ และสังคม 11 กลุ่มได้เรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตวัคซีนสำหรับภูมิภาคนี้
รายงานระบุว่า รัฐบาลควรบริจาควัคซีนอีก 20 ล้านโดสผ่านโครงการ COVAX ที่เป็นความริเริ่มระดับโลกเพื่อจัดสรรวัคซีนอย่างเท่าเทียมโดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และพันธมิตร เพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีรายได้น้อยในการต่อสู้กับการแพร่ระบาด และบริจาคเงิน 250 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (182.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในโครงการดังกล่าว
ขณะเดียวกัน รายงานดังกล่าวยังได้ระบุชื่อ 19 ประเทศรายได้ต่ำที่คาดว่าจะไม่สามารถฉีดวัคซีนครบ 70% ของประชากรผู้ใหญ่จนถึงหลังปี 2573 เมื่อพิจารณาถึงอัตราการฉีดวัคซีนในปัจจุบัน
รายงานระบุว่า “การเกิดขึ้นของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา แสดงให้เห็นว่า ออสเตรเลียไม่สามารถหลับตาไม่ดูผลกระทบของการแพร่ระบาดในส่วนอื่นของโลกได้”
“ประการแรก เพราะมันผิดศีลธรรม แต่ไม่ช้าก็เร็ว ออสเตรเลียจะได้รับผลกระทบดังกล่าว นั่นคือเหตุผลที่เราต้องแสดงบทบาทผู้นำในการรับมืออย่างแข็งกร้าวต่อการแพร่ระบาดในระดับโลก”
ทั้งนี้ รายงานเสริมว่า ขณะที่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ผู้สูงอายุและกลุ่มผู้เปราะบางในประเทศร่ำรวยอาจเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ แต่กำลังการผลิตที่มีคุณค่านี้ไม่ควรให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชากรในวงกว้าง เนื่องจากส่วนอื่นของโลกยังคงไม่สามารถดำเนินการฉีดวัคซีนต้ามเป้าหมายปี 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 64)
Tags: COVAX, WHO, บริจาควัคซีนโควิด, วัคซีนต้านโควิด-19, องค์การอนามัยโลก, ออสเตรเลีย