นักวิเคราะห์ของธนาคารบาร์เคลย์สระบุว่า การที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายลดการพึ่งพาพลังงานนั้น หมายความการปันส่วนพลังงานภายในประเทศจะยังคงดำเนินไปจนถึงปีหน้า และหากจีนใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ก็อาจส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2564 ลดลงสู่ระดับต่ำกว่าที่บาร์เคลย์สคาดการณ์ไว้ที่ 6%
“รัฐบาลจีนกำลังเผชิญกับทางเลือกที่หนักหน่วงระหว่างเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญและการผ่อนคลายเป้าหมายคู่ขนานสำหรับการใช้พลังงานโดยรวม” ทีมนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์สซึ่งรวมถึงนายเจียน ชาง ระบุในรายงาน โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ของบาร์เคลย์สคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัว 8% ในปีนี้
ทั้งนี้ จีนได้กำหนดเป้าหมายการลดใช้พลังงานทั่วประเทศลง 3% ในปีนี้เพื่อต้องการลดมลภาวะ แต่ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา จีนระบุว่ามณฑลส่วนใหญ่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่กำหนด จึงทำให้รัฐบาลใช้มาตรการลดการใช้พลังงานในภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีการใช้พลังงานในปริมาณมาก เช่น อุตสาหกรรมการผลิตอลูมิเนียมและเหล็ก
นักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์สระบุว่า จีนได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวด้านการผลิตพลังงานไว้ที่ 2.9% สำหรับปี 2564 ซึ่งเป็นเป้าหมายใกล้เคียงกับที่กำหนดไว้สำหรับปริมาณการใช้พลังงาน โดยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ปริมาณการใช้พลังงานของจีนอยู่ที่ระดับสูงกว่า 4% ซึ่งหมายความว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจตลอดปี 2564 ของจีนอาจอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 6% หากจีนควบคุมเป้าหมายการใช้พลังงานให้มีความเข้มงวดมากขึ้น
นักวิเคราะห์คาดว่า การควบคุมการใช้พลังงานในภาคส่วนที่จำเป็นต้องใช้พลังงานในปริมาณมากนั้น จะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงไตรมาสแรกของปี 2565 แต่คาดว่าจีนอาจจะปรับเป้าหมายให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น แทนที่จะทนเห็นเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างหนัก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 64)
Tags: GDP, จีดีพี, จีน, ธนาคารบาร์เคลย์ส, พลังงาน, เศรษฐกิจจีน, เศรษฐกิจชะลอตัว