บิ๊กป้อม ตั้ง “สมศักดิ์-พีระพันธุ์” นั่งที่ปรึกษาหัวหน้าพปชร.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นที่ปรึกษาตนเองในตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ว่า ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยงานตนเองไม่ใช่เป็นการจัดทัพ

ส่วนที่มองว่า นายพีระพันธุ์ เป็นคนของนายกรัฐมนตรีส่งเข้ามาเพื่อจัดทัพนั้น พล.อ.ประวิตร ยืนยัน ขณะนี้นายพีระพันธุ์ไม่ใช่คนของใคร แต่เป็นคนของพรรค และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว ซึ่งไม่ได้มอบหมายให้ดูงานด้านใดเป็นพิเศษ แต่ให้มาช่วยทุกเรื่อง และการตั้งนายพีระพันธุ์นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นรุ่นน้องโรงเรียนเซนต์คาเบรียล แต่เพราะคุ้นเคยกันมานานตั้งแต่สมัยที่ตนเองเป็นรมว.กลาโหม และนายพีระพันธุ์ เป็นรมว.ยุติธรรม ในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในปี 2551

ซึ่งการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น นายพีระพันธุ์ จะเป็นขุนพลสำคัญของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตร หัวเราะก่อนระบุว่า ทุกคนเป็นขุนพลทั้งหมด

ส่วนการตั้งนายสมศักดิ์ เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ใช่ตั้งเพื่อเป็นตำแหน่งปลอบใจที่ไม่ได้ตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ แต่เป็นการให้มาช่วยงานตนเองทั้งหมด ซึ่งที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคทั้งสองคนจะช่วยงานตนเองทุกเรื่อง ไม่ได้แบ่งให้ดู ส.ส.ภาคใดเป็นพิเศษ

สำหรับการลงพื้นที่ จ.สระแก้ววันพรุ่งนี้ (8 ต.ค.) พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้แจ้งนายกรัฐมนตรีแล้ว และนายกรัฐมนตรีก็ได้แจ้งตนเองเรื่องลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งต่างคนช่วยกันทำงานในการดูแลประชาชน พร้อมกับย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีคนอื่นก็ลงพื้นที่ ทำไมไม่มีการถามถึง

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึง การลงพื้นที่ของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ โดยกำชับให้ช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งพรรคได้มอบถุงยังชีพไปแล้วจำนวนมาก

พล.อ.ประวิตร ยังได้แสดงความเสียใจต่อกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ถูกคนร้ายซุ่มยิงด้วยอาวุธไม่ทราบชนิด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ขณะเข้ากระชับพื้นที่ภายในซอยต้นโพธิ์ แฟลตดินแดง กทม. เหตุเกิดช่วงเวลา 22.43 น. วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายต้องใช้ความระมัดระวัง แต่ยืนยันว่า ตำรวจไม่ใช้ความรุนแรงอยู่แล้วทุกฝ่ายต้องไม่ใช้อาวุธและความรุนแรง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top