นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.64 ที่สายการบินกลับมาให้บริการเส้นทางภายในประเทศอีกครั้ง ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ที่มีความจำเป็นในการเดินทาง ทำให้อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (cabin factor) เพิ่มขึ้นมาเป็นเฉลี่ย 87%
และภายในเดือน ต.ค.นี้ แอร์เอเชียได้เพิ่มมาให้บริการเส้นทางภายในประเทศรวม 20 เส้นทาง สูงสุด 30 เที่ยวบินต่อวัน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทาง และช่วยกระตุ้นบรรยากาศท่องเที่ยว ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
“เดือนตุลาคมเป็นต้นไปเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวปลายปี และ ททท.ได้มีโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 เชื่อว่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวในทุกภูมิภาคทั่วประเทศมากขึ้น และเป็นการเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนนโยบายการเปิดประเทศของภาครัฐต่อไป โดยเรายังเน้นย้ำถึงมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในการเดินทางของผู้โดยสาร มาตรการคัดกรองตามนโยบายจังหวัด และความมั่นใจในพนักงานสายการบินผู้ให้บริการ ซึ่งทุกคนได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานที่กำหนด”
นายสันติสุข กล่าว
นายสันติสุข กล่าวเชื่อมั่นว่า ในไตรมาส 4/64 นี้ การท่องเที่ยวภายในประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้น และทุกคนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตเดินทางมากขึ้น ทั้งจากแผนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ การควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาตรการผ่อนคลายการเดินทางและใช้ชีวิต รวมถึงนโยบายแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยที่ทั้งภาครัฐและเอกชนดำเนินการร่วมกัน และแอร์เอเชียมีความพร้อมเต็มที่ในการให้บริการสำหรับทุกคน
ปัจจุบัน บริษัทมีจำนวนเครื่องบิน 60 ลำ โดยครึ่งหนึ่งเป็นเส้นทางบินต่างประเทศ และอีกครึ่งหนึ่งบินในประเทศ โดยปีนี้บริษัทจะคืนเครื่องบินตามสัญญา 5 ลำ ทำให้สิ้นปี 64 จะมีจำนวนเครื่องบิน 54 ลำ
นอกจากนี้ จากที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพิ่มที่นั่งภายในเครื่องเป็น 100% จากปัจจุบันที่ 75% นั้น จะทำให้ต้นทุนต่อที่นั่งลดลงไปราว 20-30%
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าปีนี้จำนวนผู้โดยสารจะอยู่ที่ 4 ล้านคน ต่ำกว่าปีก่อนที่มีจำนวน 9.49 ล้านคน เทียบกับปี 62 ที่มีจำนวน 20 ล้านคน โดยคาดว่าจากนี้นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV กล่าวว่า การปรับโครงสร้างกิจการยังคงแผนเดิมที่นำ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด (TAA) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทน AAV ขณะที่เม็ดเงินใหม่ที่จะมาจากนักลงทุนใหม่ ยังคงเป็นกลุ่มเดิม แต่อาจจะมีจำนวนผู้ลงทุนเพิ่มขึ้น และเนื่องจากมีการเปลี่ยนวิธีการ จึงอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หากหน่วยงานดังกล่าวเห็นด้วย ก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติ และคาดว่าภายใน 90 วันหลังบอร์ดอนุมัติจะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามา
อย่างไรก็ดี บริษัทยังรอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) จากรัฐบาลเพื่อนำมาเติมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ซึ่งวันนี้ ไทยแอร์เอเชียมีพนักงาน 5 พันคน และไม่มีการปลดพนักงาน โดยได้เตรียมความพร้อมของบุคคลากร ทั้งเรื่องฝึกอบรมต่อเนื่อง การมีใบอนุญาตต่างๆ รวมถึงการซ่อมบำรุงเครื่องบินให้พร้อมเดินทางได้ทุกเมื่อ
ส่วนที่สมาคมสายการบินในประเทศ ได้เข้าหารือกับ รมว.คลัง ถึงประเด็นเงินกู้ที่จะได้รับเพิ่ม 30% จากสถาบันที่มีสินเชื่อนั้น นายสันติสุข กล่าวว่า ธนาคารที่บริษัทกู้อยู่ ไม่อนุมัติเงินกู้เพิ่ม ดังนั้น รมว.คลังจะไปดูว่าจะสามารถแก้เงื่อนไขให้สถาบันการเงินอื่นให้เงินกู้ได้หรือไม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 64)
Tags: AAV, สันติสุข คล่องใช้ยา, สายการบิน, หุ้นไทย, เอเชีย เอวิเอชั่น, ไทยแอร์เอเชีย