นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมควบคุมโรค จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าจากประเทศฮังการี จำนวน 400,000 โดส พร้อมอนุมัติให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้ลงนามในร่าง Bilateral Agreement และร่าง Tripartite Agreement ระหว่างฮังการี ไทย และแอสตร้าเซนเนก้า
สาระของร่าง Bilateral Agreement ระหว่างฮังการีและไทย ประกอบด้วย 1.การขนส่งวัคซีน 2.กรรมสิทธิ์และความเสี่ยง 3.การรักษาความลับ 4.กฎหมายที่ใช้บังคับและการยุติข้อพิพาท และ 5.Indirect taxes/VAT มีการลงนามและร่าง Tripartite Agreement ระหว่างฮังการี ไทย และ แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งจะใช้ร่างเอกสารแบบเดียวกันที่ไทยจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จากสเปน เมื่อวันที่ 14 ก.ย.64 โดยมีสาระสำคัญ 1.Indirect taxes/VAT 2.การส่งมอบ และ 3.กฎหมายที่ใช้บังคับ
“การจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมเป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบ 126.2 ล้านโดส มั่นใจว่า ปีนี้จะสามารถฉีดวัคซีนให้ได้ 70 % ของประชากรกลุ่มเป้าหมายภายในเดือน ธ.ค.64”
โฆษกรัฐบาล ระบุ
นอกจากนั้น ครม.ยังมีมติเห็นชอบให้รับการสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 จากไอซ์แลนด์และเยอรมนี โดยไอซ์แลนด์มีประสงค์จะบริจาควัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 100,000 โดส โดย รมว.สาธารณสุขจะเป็นผู้ลงนามในร่าง Donation Agreement – Delivered Doses ระหว่างไอซ์แลนด์กับไทย ซึ่งจะดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติครม.ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนเยอรมนีจะบริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 346,100 โดส โดยให้ รมว.สาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในร่าง Bilateral Agreement ระหว่างเยอรมนีกับไทย และร่าง Tripartite Agreement ระหว่าง เยอรมนี ไทย และแอสตร้าเซนเนก้า
ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์และเยอรมนี คาดว่า จะสามารถส่งมอบวัคซีนได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อให้สามารถกระจายการฉีดวัคซีนได้อย่างทั่วถึง และการได้รับสนับสนุนบริจาควัคซีนสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมของประเทศไทย และความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรไมตรีระหว่างสหภาพยุโรปอีกด้วย
ขณะที่วันพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมจะร่วมงานฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็ก/เยาวชนที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี เพื่อเร่งสร้างความมั่นใจในการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ต.ค. 64)
Tags: AstraZeneca, Pfizer, กรมควบคุมโรค, ธนกร วังบุญคงชนะ, ประชุมครม., มติคณะรัฐมนตรี, วัคซีนต้านโควิด-19, ฮังการี, แอสตร้าเซนเนก้า, ไฟเซอร์