กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเตือนพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำชี 6 จังหวัดให้ระวังน้ำล้นตลิ่งช่วงวันที่ 4-15 ต.ค.นี้ เนื่องจากจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันเตี้ยนหมู่ และแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 24-25 ก.ย.ที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในลุ่มน้ำชี โดยเฉพาะในลุ่มน้ำชีตอนบน บริเวณจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งปริมาณน้ำสูงสุดได้เดินทางมาถึงเขื่อนชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ส่งผลให้ระดับน้ำที่เขื่อนชนบทสูงกว่าตลิ่งในช่วงพื้นที่ลุ่มต่ำประมาณ 3.50 เมตร และล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำชี ในเขต อ.โคกโพธิ์ชัย อ.แวงใหญ่ อ.ชนบท อ.มัญจาคีรี อ.บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด และ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ประกอบกับระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น สูงเกินเกณฑ์ระดับน้ำควบคุมสูงสุด จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำลงลำน้ำพองและไหลไปรวมกับแม่น้ำชี ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำชีเพิ่มสูงมากขึ้น
โดยสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชีตอนกลางบริเวณ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น และ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม พบว่าเขื่อนมหาสารคาม อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม มีระดับน้ำ +147.58 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) สูงกว่าระดับเก็บกัก 0.78 เมตร (ระดับเก็บกัก +146.8 ม.รทก.) ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนมหาสารคาม 580 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 5 เซนติเมตรต่อชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำชีเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.50-2 เมตร ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำชีในช่วงวันที่ 4-15 ตุลาคม 2564 ดังนี้
1.จังหวัดขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น อ.โคกโพธิ์ชัย อ.มัญจาคีรี อ.แวงใหญ่ อ.แวงน้อย อ.ชนบท อ.บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด และ อ.พระยืน
2.จังหวัดมหาสารคาม อ.โกสุมพิสัย อ.กันทรวิชัย และ อ.เมืองมหาสารคาม
3.จังหวัดกาฬสินธุ์ อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย และ อ.ร่องคำ
4.จังหวัดร้อยเอ็ด อ.จังหาร อ.เชียงขวัญ อ.ธวัชบุรี อ.โพธิ์ชัย อ.เสลภูมิ อ.ทุ่งเขาหลวง อ.พนมไพร และ อ.อาจสามารถ
5.จังหวัดยโสธร อ.เมืองยโสธร อ.คำเขื่อนแก้ว อ.มหาชนะชัย และ อ.ค้อวัง
6.จังหวัดศรีสะเกษ อ.กันทรารมย์
ในการนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1.ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมในการอพยพและเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์
2.ปรับแผนบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ โดยพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ จัดจราจรน้ำในการสับหลีกการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำและเร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ รองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน เพื่อลดผลกระทบความรุนแรงของอุทกภัยและให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
3.เตรียมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้กำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำชี จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเตรียมรับมือพายุที่จะเข้ามาในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 8-9 ต.ค.ว่า รัฐบาลเตรียมการรับมือไว้แล้ว ถ้าปริมาณฝนตกตามปกติก็รับมือได้ แต่หากมามากกว่าปกติก็จะได้รับความเสียหาย แต่จะพยายามทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และจะเร่งดูแลเยียวยา เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ต.ค. 64)
Tags: กอนช., น้ำท่วม, น้ำล้นตลิ่ง, พายุดีเปรสชัน, อุทกภัย, เตี้ยนหมู่